

- ถือเป็นการเตือนด้วยความห่วงใย
- หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม
- ย้ำเรื่องล็อกดาวน์ต้องพิจารณารอบคอบ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข ประกาศเตือนภัยโควิดฯ ระดับ 4 ว่า ที่ผ่านมา นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประกาศเตือนภัยระดับ 4 ล่าสุด ก็ยังอยู่ที่ 4 เหมือนเดิม ไม่ได้มีการยกระดับ แต่ที่ท่านออกมาสื่อสาร เพราะทางเราเป็นห่วงประชาชน เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ต้องออกมาเน้นย้ำขอความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ เหมือนหมอถามว่าตอนนี้ ความดันขึ้น ยังกินอาหารรสเค็มไหม ถ้ากินเค็มต้องระวังนะ เรื่องนี้ ก็เหมือนกัน แพทย์ท่านเป็นห่วง
เมื่อถามถึงเรื่องของสิทธิการรักษาผู้ป่วย นายอนุทิน ตอบว่า เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล เพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (UCEP) ยืนยันว่าไม่ได้ยกเลิกการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่รักษาตามสมมติฐานของโรค เช่น ผู้ป่วยโควิดส่วนใหญ่ ที่ไม่แสดงอาการไม่มีอาการรุนแรง หรือผู้ป่วยสีเขียว จะใช้การรักษาแบบรักษาตัวที่บ้าน หรือที่ศูนย์พักคอยชุมนุม
ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลภายใต้ระบบ UCEP ได้ และสามารถรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนได้โดยไม่มีกำหนดเวลา 72 ชั่วโมง ที่จำแนกประเภทของผู้ป่วย เพื่อให้เตียงมีจำนวนว่างมากที่สุด ต้องเข้าใจว่า ประเทศไทย นอกจากโควิดฯ เรามีผู้ป่วยโรคอื่นด้วย จำเป็นต้องจัดการรักษาให้เหมาะสมกับสถานการณ์
สิ่งที่ยังต้องขอนอกจากการขอให้ระมัดระวัง คือ ขอให้คนไทย มาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 เพื่อลดความรุนแรงของโรค ตอนนี้ เราฉีดไปถึงเข็มบูสเตอร์แล้ว บางคนบอกว่าเราฉีดเข็ม 3 ได้น้อย ต้องชี้แจงว่า เราทยอยฉีดตามเกณฑ์การแพทย์ คนที่เพิ่งรับเข็ม 2 ไป ถ้าไม่ถึงเวลาที่กำหนด เรายังไม่ฉีดเข็ม 3 ให้
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามถึงสถานการณ์เตียงรักษาผู้ป่วยโควิด 19 นายอนุทิน กล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบกับอธิบดีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว ยืนยันว่า จำนวนเตียงและโรงพยาบาลทั่วประเทศมีความพร้อม
“การเพิ่มมาตรการ ไปจนถึงล็อกดาวน์ เรื่องนี้ ต้องพิจารณาให้รอบด้าน จะเห็นว่า ประเทศอื่น ติดเชื่อมากกว่า แต่เขาผ่อนคลายมาตรการ ส่วนไทย เราพยายามทำดีที่สุดโดยการหาทางสายกลาง ขอย้ำว่าโอมิครอนติดง่ายหายเร็ว และความรุนแรงของโรคไม่เหมือนสายพันธุ์อื่น”