

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เสนอเรื่องมาตรการควบคุมโรคระบาดโควิด-19 ต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้หารือ และได้เสนอมาตรการต่างๆ ขึ้นไปแล้วตามบทบาทหน้าที่ ทุกข้อเสนอผ่านการพิจารณาตามหลักวิชาการ ก็ต้องรอให้ทาง ศบค.เป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งอาจจะเป้นในวันพรุ่งนี้ ที่จะมีการประชุม ศบค. และถ้าทุกฝ่ายเห็นตรงกัน สามารถเดินหน้าได้เลย
ทั้งนี้ในส่วนของจุดบริการตรวจโควิด ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประสานกับทาง กทม. ให้จัดพื้นที่บริการประชาชนเพิ่มเติม ตอนนี้ในที่ประชุมของกระทรวงฯ ได้อนุมัติวิธีการตรวจเชื้อประเภทอื่นเช่น Rapid Antigen Test ไปแล้ว แต่แนวทางการใช้จะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับแนะนำของแพทย์ ส่วนเรื่องเตียง ได้พยายามขยายศักยภาพขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วย ล่าสุด ทางกระทรวงคมนาคมได้เสนออาคาร Satellite 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อใช้เป็นโรงพยาบาล มีขีดความสามารถเท่ากับโรงพยาบาลบุษราคัม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการด้านสาธารณสุข ที่จะต้องพิจารณา ไว้เป็นกรอบในการควบคุมโรค ประกอบไปด้วย การจำกัดการเดินทางออกนอกพื้นที่ โดยเฉพาะห้ามการเคลื่อนย้ายระหว่างจังหวัด มีการตั้งจุดตรวจเพื่อลดการเคลื่อนย้าย เสนอให้ปรับมาตรการ Work From Home ภาครัฐและเอกชนให้สูงสุด ขอความร่วมมือเปิด-ปิดกิจการ ห้างสรรพสินค้า กิจการประเภทเดียวกัน รวมทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านข้าวต้มรอบดึก เพื่อลดการเคลื่อนย้าย ลดการเดินทางออกนอกพื้นที่ของประชาชน ให้อยู่บ้านลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ปรับเวลาการให้บริการขนส่งสาธารณะ
อย่างไรก็ตามในที่ประชุมมีความเป็นห่วงว่าการลดเวลาต่างๆ และการปรับมาตรการต้องคำนึงถึงการคงไว้ซึ่งความจำเป็น เช่น สาธารณูปโภค อาหาร อย่างซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลาด อาจยังจำเป็นต้องเปิด แม้กระทั่งร้านขายเครื่องมืออุปกรณ์ช่าง เช่น กรณีมีการจำกัดเวลาแล้วเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ประชาชนจะยังคงได้รับความปลอดภัยด้วย