อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่เมืองจันท์ เชือดแก๊งทุเรียนอ่อน ลุยตรวจความพร้อมดันส่งออก



  • ขานรับนโยบาย “มนัญญา” เตรียมความพร้อมดันส่งออกผลไม้ภาคตะวันออกฤดูกาลผลิตปี 65
  • ย้ำทุเรียนที่ส่งออก ต้องมีคุณภาพ ปลอดศัตรูพืช และเชื้อโควิด
  • รุดจับมือ ผู้ว่าฯ จันทบุรี แถลงข่าวจับทุเรียนอ่อนคาล้ง ยึดของกลาง 3 ตัน
  • ลั่นเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายเต็มที่ พร้อมเพิกถอนใบรับรอง

วันนี้ (14 มี.ค.65) นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร แถลงข่าวร่วมกับนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กรณีการจับกุมและดำเนินคดีตัดทุเรียนไม่ได้คุณภาพ (อ่อน) เพื่อการส่งออก ณ สถานีตำรวจภูธรท่าใหม่  ซึ่งได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่า มีล้งทุเรียนแห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี มีการรับซื้อทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) เพื่อนำส่งออกไปจำหน่ายที่ประเทศจีน โดยชุดเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ จังหวัดจันทบุรี จึงได้เข้าไปดำเนินการตรวจสอบล้งทุเรียนตามที่ได้รับแจ้งดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ได้ขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืชกับกรมวิชาการเกษตร 

นายระพีภัทร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบทุเรียนอ่อนในโรงคัดบรรจุดังกล่าวนั้น นอกจากจะมีการดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญาที่ระบุในคำสั่งจังหวัดจันทบุรีแล้ว ในส่วนของกรมวิชาการเกษตรก็จะมีการดำเนินการกับเกษตรกรและโรงคัดบรรจุที่ขึ้นทะเบียน โดยเกษตรกรเจ้าของผลผลิตทุเรียนด้อยคุณภาพที่อายัดไว้ ตรวจสอบแล้วพบว่าได้รับการรับรอง GAP จาก สวพ.6 กรมวิชาการเกษตร พื้นที่การผลิต จำนวน 3 ไร่ 

“หากสืบสวนแล้วปรากฏว่า มีเจตนาให้ตัดผลผลิตไม่ได้คุณภาพ หรือเพิกเฉยไม่คัดค้านการนำผลผลิตที่ไม่ได้คุณภาพของตนออกสู่ท้องตลาด เกษตรกรผู้ได้รับการรับรองไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับรองแหล่งผลิต GAP พืช เจ้าหน้าที่จะเสนอข้อมูลเสนอต่ออธิบดีหรือผู้ได้รับมอบหมาย มีอำนาจสั่งพักใช้ใบรับรอง หรือเพิกถอนใบรับรองGAP ซึ่งในส่วนของโรงคัดบรรจุก็จะมีการดำเนินการเช่นเดียวกัน ภายใต้ประกาศกรมวิชาการเกษตรเรื่อง การขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืช” นายระพีภัทร์  กล่าว

นายระพีภัทร์  กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายหลักที่จะผลักดันและสนับสนุนให้การส่งออกผลไม้ไปต่างประเทศมีความคล่องตัวและพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่ นางสาวมนัญญา  ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตรได้มอบหมายให้ลงพื้นที่พร้อมด้วยนายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เพื่อติดตามกำกับดูแลการดำเนินงานการส่งออกผลไม้ภาคตะวันออกฤดูกาลผลิตปี 2565 โดยเฉพาะทุเรียนซึ่งกำลังมีผลผลิตออกสู่ท้องตลาดในขณะนี้  เนื่องจากกรมวิชาการเกษตรมีภารกิจหลักในการตรวจสอบศัตรูพืชไม่ให้ติดปนเปื้อนไปกับผลผลิตที่จะส่งออก รวมทั้งปัจจุบันจีนยังได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมให้เข้มงวดตรวจสอบป้องกันไม่ให้มีเชื้อไวรัสโควิด-19 ปนเปื้อนไปกับผลผลิตด้วย

ทั้งนี้ในด้านการป้องกันทุเรียนด้อยคุณภาพหรือทุเรียนอ่อนไม่ให้มีการลักลอบส่งออกเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ได้กำชับให้กรมวิชาการเกษตรกำกับดูแลคุณภาพและมาตรฐานป้องกันไม่ให้มีสินค้าด้อยคุณภาพหรือทุเรียนอ่อนหลุดรอดไปถึงผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ   ซึ่งกรมวิชาการเกษตร ได้มอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่คือ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จันทบุรีให้ความร่วมมือดำเนินการป้องกันและตรวจสอบร่วมกับจังหวัดจันทบุรี ตามประกาศการกำหนดเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียน โดยใช้ค่ามาตรฐานเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งในเนื้อทุเรียนตามมาตรฐานสินค้าเกษตรเรื่องทุเรียนซึ่งระบุว่า ทุเรียนพันธุ์กระดุม ไม่น้อยกว่า 27 % พันธุ์ชะนีและพันธุ์พวงมณี ไม่น้อยกว่า30% และพันธุ์หมอนทองไม่น้อยกว่า 32% ถ้าเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่านี้ ถือว่าเป็นทุเรียนอ่อน

“ขอเน้นย้ำว่าทางกระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญกับคุณภาพมาตรฐานการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าเป็นอย่างมาก จึงขอความร่วมมือให้เกษตรกรและผู้ประกอบการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการส่งออกของประทศคู่ค้าอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการปฏิบัติตาม  GMP Plus (มาตรการ GMP + Covid-19 ) การปฏิบัติในโรงคัดบรรจุที่ดีตามมาตรฐาน GMP และตามมาตรการการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด 19 เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าเกษตรไทยมีความปลอดภัยต่อการบริโภคทั้งในประเทศและการส่งออกไปต่างประเทศ” อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าว