หวั่นสงครามตะวันออกกลางปะทุ ดัชนีดาว โจนส์เปิดตลาดดิ่งแรง



  • นักลงทุนวิตกสถานการณ์ตะวันออกกลาง หลังสหรัฐฯโจมตีผู้อิรักและอิหร่านเสียชีวิต
  • สถานทูตสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ตือนให้ชาวอเมริกันเดินทางออกจากอิรักทันที
  • นักวิเคราะห์หวั่นราคาน้ำมันพุ่ง 80 เหรียญฯต่อบาร์เรล

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 28,682.65 จุด ติดลบ 186.15 จุด หรือ-0.64%ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 3,237.85 จุด ติดลบ 20.00 จุด หรือ -0.64% ด้านดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 9,031.90 จุด ลดลง 60.29 จุด หรือ -0.66% ตลาดเปิดติดลบลงอย่างรวดเร็ว และถือเป็นการจบช่วงซานต้า แรลลี่ ของการปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา

นักลงทุนวิตกสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางและการตอบโต้ของอิหร่าน และอิรัก ต่อสหรัฐฯ หลังสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงแบกแดด ออกแถลงการณ์ตือนให้ชาวอเมริกันเดินทางออกจากอิรักโดยทันที หลังจากที่สหรัฐได้ใช้ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศต่อท่าอากาศยานนานาชาติกรุงแบกแดดของอิรักในช่วงเช้าวันนี้

การโจมตีของสหรัฐได้ส่งผลให้นายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds Force ของอิหร่าน และนายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส รองผู้นำกองกำลังฮาชด์ชาบี (Hashd Shaabi) ของอิรัก เสียชีวิต

แถลงการณ์ระบุว่า “เนื่องจากมีความตึงเครียดมากขึ้นในอิรักและในภูมิภาค ทางสถานทูตจึงขอเรียกร้องให้ชาวอเมริกันเดินทางออกจากอิรักโดยทันที โดยควรเดินทางด้วยเครื่องบินหากเป็นไปได้ มิฉะนั้น ควรเดินทางไปยังประเทศอื่นโดยใช้เส้นทางบก”

แถลงการณ์ยังแนะนำให้ชาวอเมริกันงดเว้นการเดินทางมายังอิรัก และหลีกเลี่ยงการเดินทางมายังบริเวณสถานทูตสหรัฐ รวมทั้งให้ติดตามข่าวสารจากสื่อทั้งภายในและภายนอกประเทศ

ทางด้านอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศพร้อมตอบโต้สหรัฐ ขณะที่นายอาเดล อับดุล มาห์ดี รักษาการนายกรัฐมนตรีอิรัก กล่าวประณามการโจมตีดังกล่าว โดยมองว่าเป็นการแสดงความก้าวร้าวต่อรัฐบาลและชาวอิรัก

ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่า การที่สหรัฐสังหารนายพลอิหร่านในวันนี้ จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเสถียรภาพในภูมิภาค “การกระทำดังกล่าวไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาในตะวันออกกลาง แต่จะนำไปสู่ความตึงเครียดรอบใหม่ในภูมิภาค”

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความเป็นครั้งแรกหลังจากที่สหรัฐใช้ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศต่อท่าอากาศยานนานาชาติกรุงแบกแดดของอิรัก โดยใช้ข้อความว่า “อิหร่านไม่เคยชนะสงคราม แต่ไม่เคยพ่ายแพ้ในการเจรจา” ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า ราคาน้ำมันอาจพุ่งแตะระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล หากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านส่งผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลาง

“เราคาดว่าสหรัฐและอิหร่านจะปะทะกันเป็นเวลาราว 1 เดือน และมีแนวโน้มจำกัดวงในอิรัก โดยกองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านจะโจมตีฐานทัพสหรัฐ และทหารสหรัฐบางนายจะเสียชีวิต ขณะที่สหรัฐจะทำการโจมตีภายในอิรัก”

“ราคาน้ำมันจะดีดตัวแตะ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่อาจพุ่งถึง 80 ดอลลาร์ ถ้าความขัดแย้งดังกล่าวลุกลามไปยังแหล่งน้ำมันทางใต้ของอิรัก หรือหากอิหร่านขัดขวางการขนส่งทางเรือในบริเวณดังกล่าว” นักวิเคราะห์จากยูเรเซีย กรุ๊ป ระบุ

นอกจากนั้น นักลงทุนยังชะลอการซื้อเพื่อจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเป็นการประชุมวันที่ 10-11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในวันนี้ รวมทั้งการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงเฟดหลายราย เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ