

นายกรัฐมนตรี “เซบาสเตียน ควทซ์” ผู้นำรัฐบาลออสเตรียได้ออกแถลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ด้วยการออกข้อบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากในทุกครั้งเมื่อออกจากเคหะสถานไปยังร้านค้าซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อป้องกันระบาดของไวรัสโควิด-19 มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
นายกออสเตรียระบุว่า ตนรู้ดีว่าการสวมหน้ากากเป็นเรื่องแปลกในวัฒนธรรมของออสเตรีย แต่ทุกคนต้องปรับตัวกันครั้งใหญ่รัฐบาลจะจัดหาให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ รวมถึงอาจพิจารณาการใช้หน้ากากผ้าที่ผลิตขึ้นเองด้วย โดยเป้าหมายต่อไปจะให้สวมหน้ากากในที่สาธารณะด้วย
ออสเตรียเป็นประเทศแรกในยุโรป ที่ผู้นำออกมารณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากเวลาออกนอกบ้าน
ขณะ“ไมเคิล ไรอัน” ผู้อำนวยการบริหาร องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า WHO ยังคงไม่แนะนำให้ใส่หน้ากาก โดยทั่วไปแนะนำให้ผู้ป่วยเท่านั้นที่ถูกแนะนำให้สวมใส่ ไม่มีหลักฐานที่ระบุว่าการสวมหน้ากากเป็นประโยชน์พิเศษอย่างใด “ม้นเป็นผลด้านจิตวิทยา, สังคม” เขากล่าว
“ไรอัน” กล่าวว่า WHO ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์การสวมหน้ากากในที่สาธารณะ เห็นได้ว่าเขาหมายถึงชาวเอเชียตะวันออกคุ้นเคยกับการสวมหน้ากากเพื่อป้องกันตนเองจากมลพิษหรือการแพร่ระบาดของไข้หวัด เขาระบุว่ามีหลักฐานบางอย่างแนะนำในเชิงลบที่ได้จากกาสวมหน้ากากที่้ไม่ถูกต้องหรือ ไม่ฟิตกับใบหน้าหรือสวมและใส่อย่างถูกต้อง
เขาระบุว่า การขาดแคลนหน้ากากทั่วโลก ดังนั้นจะต้องให้ความสำคัญกับบุคลากรทางการแพทย์ในแนวหน้าก่อน
“มาเรีย แวน เคร์กเคอเว่อ” หัวหน้าด้านเทคนิคของโครงการ WHO ผู้ซึ่งวใช้เวลาในจีนสองสัปดาห์สะท้อนมุมมองว่า การวิเคราะห์เชิงปริมาณเรื่องนี้มีไม่มากนัก เธอย้ำว่าหน้ากากมีความจำเป็นสำหรับผู้ป่วยและผู้ดูแลผู้ป่วย
แนวทางการแนะนำการสวมหน้ากากของ WHO จะเหมือนกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC ) ของสหรัฐ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้าว่าจะมีการอัปเด็ดการแนะนำในไม่ช้า แต่ CDC ออกมาบืนยันว่าไมท่มีการอัปเด็ดอะไรเพิ่มเติม
ด้าน “จอร์จ เกา” ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน กล่าวกับนิตยสาร Sicence ว้นสัปดาห์ที่ผ่านว่า ความผิดพลาดครั้งใหญ่ในสหรัฐและยุโรปคือไม่สวมหน้ากาก ไวรัสนี้แพร่กระจายโดยการพ่นละอองและสัมผัสผู้ใกล้ชิด การพ่นละออกสำคัญมาก คุณต้องสวมหน้ากากเพราะเมื่อคุณพูดออกมาจะมีละอองออกจากปากคุณอยู่ตลอดเวลา
หลายคนติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการ หากพวกเขาสวมหน้ากากก็สามารถป้องกันละอองที่เป็นพาหะของไวรัสไปยังผู้อื่นได้
สก็อต ก็อทลิบ อดีตผู้บริหาร สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า กลุ่มอายุบางกลุ่มอาจจะต้องสวมหน้ากากในที่สาธารณะ ถ้าประชาชวัยหนุ่มสาวไม่สนใจคำเตือนการแพร่ระบาดไวรัส