สูงเป็นประวัติการณ์ WSTS ชี้ปี 65 ความต้องการใช้ชิปทั่วโลกพุ่ง อเมริกาอันดับ 1 ญี่ปุ่นตามติดมาที่ 2



  • เผยความต้องการใช้ชิปเพิ่มขึ้น เนื่องจากการใช้อุปกรณ์ในการทำงานทางไกล และการเรียนออนไลน์
  • พบยอดขายเครื่องเกมคอนโซลก็เพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภค หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้าน
  • ชี้รัฐบาลบางประเทศผลักดัน ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่า จะมีซัพพลายชิปที่มั่นคง

วันนี้ (12 ธ.ค.64) World Semiconductor Trade Statistics (WSTS) เปิดเผยว่า จากความคาดการณ์ พบว่าความต้องการชิปทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 8.8% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่กว่า 6 แสนล้านดอลลาร์ ในปี 2565 หลังจากที่พุ่งขึ้น 25.6% ในปีนี้

ทั้งนี้รายงานประเมินว่า ตลาดเซมิคอนดักเตอร์จะมีมูลค่า 6.0149 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2565 แซงหน้าสถิติเดิมที่คาดไว้ที่ 5.5296 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2564

ทั้งนี้สำหรับความต้องการชิปสำหรับแล็ปท็อปและคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต รวมถึงอุปกรณ์ Wi-Fi นั้นเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากการใช้ในการทำงานทางไกล และการเรียนออนไลน์หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่ยอดขายเครื่องเกมคอนโซลก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากผู้บริโภคเลือกจะหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้านโดยไม่จำเป็น ทำให้มีความต้องการชิปเพิ่มเติม

นอกจากนี้ การเปิดเศรษฐกิจใหม่ รวมถึงความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยังทำให้มีความต้องการชิปสำหรับการใช้ในยานยนต์ และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งไปถึงปีหน้า โดยอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิปคาดว่าอุปสงค์และอุปทาน จะยังคงตึงตัวไปอีกสักพัก

นายแพท เกลซินเกอร์ ซีอีโอของอินเทล คอร์ป กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกจะต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะลดลง

โดยแนวโน้มดังกล่าวได้ผลักดันให้รัฐบาลบางประเทศใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีซัพพลายชิปที่มั่นคงเพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์มากมาย ตั้งแต่สมาร์ทโฟนและยานยนต์ จนถึงอุปกรณ์เครือข่ายความเร็วสูง

สำนักข่าวเกียวโด ของประเทศญี่ปุ่น รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจจัดสรรงบประมาณ 4 แสนล้านเยน (3.5 พันล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดัคเตอร์ แมนูแฟคเจอริง โค (TSMC) ในการสร้างโรงงานแห่งใหม่ในจังหวัดคุมาโมโตะ

ขณะที่เมื่อเดือนที่แล้ว มาเกรเด เวสเทเออร์ กรรมาธิการด้านการแข่งขันของสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่า EU กำลังพิจารณาจะผ่อนคลายกฎความช่วยเหลือจากรัฐ เพื่อให้สนับสนุนเงินทุนสำหรับโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ใน 27 ประเทศของ EU ได้

อย่างไรก็ตาม WSTS ยังระบุด้วยว่า เมื่อแยกตามภูมิภาคนั้น คาดกันว่าภูมิภาคอเมริกาจะมีความต้องการชิปเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปี 2565 ด้วยความต้องการพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 10.3% ตามด้วยในญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น 9.3% ส่วนตลาดชิปในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ไม่รวมญี่ปุ่นคาดว่า จะเติบโต 8.4% และในยุโรปเพิ่มขึ้น 7.1%