

วันที่ 9 กันยายน 2564 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงความสำคัญของการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในวันที่ 10 กันยายนนี้ จะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวกับระบบเลือกตั้ง ให้กลับมาใช้ระบบบัตรเลือกตั้งสองใบเหมือนรัฐธรรมนูญในปี 2540 และ 2550 รวมทั้งแก้ไขจำนวน ส.ส.ให้เป็นแบบ ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ซึ่งถือเป็นบันไดขั้นแรกของการคืนประชาธิปไตยให้ประชาชน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง
- การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นการแก้ไขตามความผูกพันของรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ที่มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ 2.เมื่อมีการบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็มีปัญหาเกิดขึ้นจริงตามที่หลายฝ่ายทักท้วง ทำให้ได้พรรคเล็กพรรคน้อย เป็นเบี้ยหัวแตกเต็มไปหมด ได้รัฐบาลผสมมากที่สุดในโลก มีการย้ายพรรค ยุบพรรคแบบพิสดาร และที่ร้ายแรงที่สุดคือเปิดโอกาสให้มีการใช้เงินใช้ทอง ลักษณะประชาธิปไตยแบบกล้วยๆ แบบที่เพิ่งเห็นกันเมื่อไม่กี่วัน 3.ที่ผ่านมารัฐบาลก็รับรู้ปัญหาต่างๆ เป็นอย่างดี เพราะในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ข้อ 12 ก็ได้กำหนดเอาไว้ว่าจะมีการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายสุทิน กล่าวอีกว่า 4.ที่ผ่านมาพรรคพท.ได้พยายามดำเนินการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ในทุกหนทาง เพื่อคืนประชาธิปไตยให้กับพี่น้องประชาชน โดยพรรคพท.เคยยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มายกร่าง ซึ่งรัฐบาลและ ส.ว. บอกว่าทำไม่ได้ โดยอ้างว่าไม่สามารถร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ จากนั้นพรรคก็ได้ยื่นแก้รายมาตรา ที่หยิบยกขึ้นมาคือเรื่องระบบเลือกตั้ง ซึ่งทุกคนบอกว่าจุดที่เป็นปัญหา คือ บัตรเลือกตั้งใบเดียว ก็ตกไปในวาระ3 ครั้งนี้เป็นการยื่นแก้ไขรายมาตราครั้งที่สองของพรรค เป็นแบบแก้รายมาตรา แต่ในการพิจารณาวาระ 1 ส.ว. ก็ลงมติเอาฉบับของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งแก้ไขให้เป็นแบบบัตรเลือกตั้งสองใบ และ ส.ส. 400+100
5.ที่ประชุมรัฐสภาจะพิจารณาในวันที่ 10 กันยายนนี้เป็นทางแยกสำคัญ 2 ทาง คือ ถ้าผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา ก็จะเป็นบัตรเลือกตั้งสองใบ เหมือนรัฐธรรมนูญปี 40 และปี 50 แต่ถ้าไม่ผ่าน ก็จะเป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียวเหมือนเดิม ซึ่งการเมืองก็จะสภาพเดิม 6.พรรคพท. มองว่า ระบบเลือกตั้งที่เป็นบัตรเลือกตั้งสองใบ ได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชนว่าเป็นระบบเลือกตั้งที่เหมาะกับสังคมไทยที่สุดนับตั้งแต่เราได้ทดลองระบบเลือกตั้งแบบต่างๆ มา ทำให้ได้รัฐบาลเสียงข้างมาก ที่มีเสถียรภาพ มั่นคงและเป็นที่ยอมรับ อีกทั้งที่มาของระบบเลือกตั้งแบบบัตรเลือกตั้งสองใบ ถูกออกแบบโดย สสร. ที่มาจากประชาชน ซึ่งทำให้การเมืองเข้ารูปเข้ารอย เป็นเอกภาพมีพลังในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาประเทศ
นายสุทิน กล่าวต่อว่า 7. ที่บอกกันว่า ระบบเลือกตั้งแบบบัตรเลือกตั้งสองใบ พรรคพท.จะได้เปรียบนั้นไม่น่าจะจริง ถ้ามองด้วยความเป็นธรรม แม้ระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียวของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ใช้ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด พรรคพท.ก็ชนะเลือกตั้งเป็นอับดับที่ 1 แม้จะส่งผู้สมัคร ส.ส.เพียง 250 เขต 8.การลงมติของรัฐสภาในวันที่ 10 กันยายน พี่น้องประชาชนจับตาอยู่ ซึ่งปัจจัยสำคัญ คือ รัฐธรรมนูญบังคับไว้ว่าจะต้องได้เสียง ส.ว. 1 ใน 3 คือจำนวน 84 เสียง การแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงจะสำเร็จ ดังนั้นจะผ่านหรือไม่จึงอยู่ที่ ส.ว. 9.เมื่ออ่านใจ ส.ว. ว่าจะตัดสินใจไปในทางใด ก็ต้องพูดกันถึงข้อเท็จจริงว่า ส.ว. ก็คงจะสนองตอบต่อรัฐบาล การแก้ไขรัฐธรรมนูญวันนี้ จะผ่านหรือไม่ผ่านอยู่ที่ ส.ว. และ ส.ว.จะลงแบบไหน ก็อยู่ที่คนตั้ง ส.ว.ด้วยว่า อยากได้แบบไหน
“ซึ่งสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในช่วง 4-5 วัน ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าเสถียรภาพภายในพรรครัฐบาลมีปัญหา วันนี้รัฐบาลก็ไม่มีเอกภาพ หลังเหตุการณ์แจกกล้วยกลางสภา ภายในพรรครัฐบาลมีความเห็นไม่ตรงกันอยู่ ก็ต้องประเมินว่า เขาจะหาจุดลงตัวที่ตรงไหน วันนี้ฟังดูแล้ว นายกฯ ไปอีกแบบ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็ไปอีกแบบหนึ่ง”
นายสุทินกล่าวว่า 10.ขอเรียกร้องให้ ส.ว. และผู้มีอำนาจ คิดถึงพี่น้องประชาชนบ้าง วันนี้สถานการณ์ต่างๆ ของประเทศที่วิกฤต การแก้ไขปัญหาประเทศล่าช้า ไม่สบผลสำเร็จและพี่น้องประชาชนต้องยากลำบากในทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลอ่อนแอ ไร้ประสิทธิภาพ ไร้เสถียรภาพ ที่มาจากรัฐธรรมนูญนี้ ดังนั้นการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงขอให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด อย่าขัดขวางการสร้างประชาธิปไตยและคืนโอกาสให้พี่น้องประชาชน ฉวยโอกาสคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อต่ออายุรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้อยู่ในอำนาจต่อไป