

วันที่ 1 ก.ค.2564 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับโครงการ “เราชนะ” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือด้วยการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน เพื่อก่อให้เกิดการนำไปใช้เพื่อการใช้จ่ายสำหรับการอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคที่จำเป็นและค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทาง ซึ่งจะก่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 โดยสนับสนุนวงเงินสิทธิ์ช่วยเหลือให้แก่ประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์ จำนวน 33.2 ล้านคน คนละไม่เกิน 9,000 บาทได้ดำเนินโครงการสิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 โดยมียอดใช้จ่ายทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งสิ้น 273,475 ล้านบาท
โดยแบ่งเป็นกลุ่มดังนี้ 1.กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านสิทธิ มูลค่าใช้จ่ายรวม 101,301 ล้านบาท 2. กลุ่มผู้ที่มีแอปพลิเคชัน เป๋าตัง และผู้ที่ลงทะเบียนผ่านครงการเราชนะ จำนวน 17.1 ล้านบาท มูลค่าใช้จ่ายรวม 151,344 ล้านบาท 3. กลุ่มผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ จำนวน 2.4 ล้านคน มูลค่าใช้จ่ายรวม 20,830 ล้านบาท ส่วนผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้ให้บริการรายย่อย ได้สมัครเข้าร่วมโครงการ ทั้งสิ้น 1.3 ร้านกิจการ โดยมียอดการใช่จ่ายผ่านร้านค้าต่างๆ ได้แก่ 1.ร้านอาหารและเครื่องดื่ม มูลค่าการใช้จ่าย 52,948 ล้านบาท 2.ร้านธงฟ้า มูลค่าการใช้จ่าย 93,182 ล้านบาท 3.ร้านโอทอป มูลค่าการใช้จ่าย 11,371 ล้านบาท 4.ร้านค้าทั่วไปและอื่นๆ มูลค่าการใช้จ่าย 110,501 ล้านบาท 5.ร้านค้าบริการ มูลค่าการใช้จ่าย 5,293 ล้านบาท และ 6.ขนส่งสาธารณะ มูลค่าการใช้จ่าย 180 ล้านบาท
“กระทรวงการคลังขอขอบคุณหน่วยงานภาคีเครือข่ายของกระทรวงการคลังที่มีส่วนสำคัญในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการเราชนะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการได้”

