สหรัฐฯ เพิ่มคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ หลังโดน “จีน-รัสเซีย” วีโต้ที่ยูเอ็น



  • ขยายขอบเขตการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
  • ในมิติเกี่ยวโยงกับโครงการพัฒนา
  • อาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ว่า กระทรวงการคลังของสหรัฐออกแถลงการณ์ ขึ้นบัญชีดำบริษัทเทรดดิ้งของสายการบินแอร์ โครยอ สายการบินแห่งชาติของเกาหลีเหนือ และสถาบันการเงินสองแห่งของรัสเซีย คือ ธนาคาร ฟาร์ อีสเทิร์น และ ธนาคาร สปุตนิก จากการร่วมกันจัดซื้อ จัดหา และสร้างรายได้ให้กับหน่วยงานหลายแห่งของเกาหลีเหนือ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนา “อาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง”

ขณะเดียวกัน รัฐบาลวอชิงตันยังขึ้นบัญชีดำนายจอง ยอง-นัม ตัวแทนของสถาบันระดับสูงด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติเกาหลีเหนือประจำเบลารุส ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหน่วยงานหลายแห่งของรัฐบาลเปียงยาง ที่เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาขีปนาวุธ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของสหรัฐเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจีนและรัสเซีย ซึ่งเป็น 2 ใน 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ใช้อำนาจวีโต้ หรือการออกเสียงคัดค้าน ร่างมติของสหรัฐ ซึ่งต้องการให้ยูเอ็นเอสซียกระดับมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ งทดสอบขีปนาวุธแล้ว 17 ครั้ง นับตั้งแต่ต้นปีนี้

ทั้งนี้ ยูเอ็นเอสซียกระดับมาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดต่อเกาหลีเหนือ เมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นปีที่รัฐบาลเปียงยางทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 และเป็นครั้งล่าสุด หลังจากนั้นจีนและรัสเซียร่วมกันเสนอให้มีการผ่อนคลายมาตรการกดดันทางเศรษฐกิจบางส่วนต่อเกาหลีเหนือ โดยให้เหตุผลทางมนุษยธรรม และทั้งสองประเทศใช้กลยุทธ์ทางการทูตเพื่อประวิงเวลา แล้วสามารถปัดตกร่างมติไปได้แล้วหลายครั้ง การลงมติครั้งนี้ จึงถือเป็นครั้งแรกในรอบนานกว่า 15 ปี ที่จีนและรัสเซียวีโต้ร่างมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ.