สศช.ห่วงคนรุ่นใหม่แห่ลงทุนคริปโตฯ ชี้เสี่ยงสูงไร้การควบคุม หวั่นฆ่าตัวซ้ำรอยเมืองนอก



  • มูลค่าซื้อขายพุ่ง 1.4 แสนล้านบาทต่อเดือน
  • ย้ำต้องศึกษาให้รอบคอบ
  • เหตุมีการโกงหลายรูปแบบ

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า คริปโตเคอร์เรนซี หรือสกุลเงินดิจิทัล เป็นสินทรัพย์ที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจเข้ามาลงทุน และหาผลตอบแทนจากมูลค่าที่ปรับตัวสูงขึ้นมากในระยะเวลาอันสั้น โดยจำนวนผู้ครอบครองคริปโตฯ เพิ่มขึ้น จำนวนบัญชีซื้อขายคริปโตฯ ปี 2564 เพิ่มขึ้นมาก จากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่า ปี 2564 มีมูลค่าการซื้อขายคริปโตฯ ในไทยเฉลี่ยประมาณ 1.4 แสนล้านบาทต่อเดือน

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาพฤติกรรมการลงทุนในตลาดคริปโตฯ ของคนไทย มีประเด็นที่น่ากังวล ดังนี้ ผู้ลงทุนในคริปโตฯ ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างผลกำไรที่สูงในเวลาที่รวดเร็ว, 1 ใน 5 ของผู้ลงทุนศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับคริปโตฯ น้อย และ 25% ใช้สัญชาตญาณในการตัดสินใจลงทุน, มากกว่า 1 ใน 4 ของคนรุ่นใหม่ ที่ลงทุนในคริปโตฯ ลงทุนเพื่อความสนุก บันเทิง และเข้าสังคม และ นักลงทุนคริปโตฯ มากกว่าครึ่งหนึ่งใช้แพลตฟอร์มต่างประเทศซึ่งไม่สามารถกำกับดูแลได้ สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงในการลงทุนของนักลงทุนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน

นายดนุชากล่าวว่า การลงทุนเป็นสิ่งที่ควรสนับสนุนแต่ผู้ลงทุนต้องศึกษาหาความรู้ให้รอบด้านก่อนการตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะสินทรัพย์ประเภทนี้ซึ่งมีความเสี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์มากกว่าประเภทอื่นมาก โดยความเสี่ยงที่สำคัญ คือ ไม่มีการกำกับดูแลตามกฎหมาย สำหรับประเทศไทยยังไม่มีการกำกับดูแลเรื่องการออกเสนอขายคริปโตฯ และคุ้มครองผู้ลงทุนในคริปโตฯ ที่ทำการซื้อ/ขายผ่านแพลตฟอร์มที่ไม่ได้ดำเนินการจดทะเบียนในประเทศไทยได้ ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน (ยกเว้น Stablecoin บางชนิด) ทำให้เมื่อเกิดการด้อยค่า ผู้ที่เป็นเจ้าของจะไม่มีหลักประกันใดๆ

นอกจากกนี้ คริปโตฯ ยังสามารถปั่นราคาสินทรัพย์ (Pump and Dump) ได้ง่าย และควบคุมได้ยาก และตลาดคริปโตฯ มีการหลอกลวง และการโกงหลายรูปแบบ อาทิ การหลอกให้ผู้ใช้กรอกรหัสผ่านลงในเว็บไซต์ปลอมและขโมยบัญชีผู้ใช้ไปใช้งาน หรือเพื่อขโมยเหรียญคริปโตฯ การชักชวนลงทุนจูงใจว่าสามารถทำกำไรได้แบบเกินจริง ขณะที่การ rug pull ที่เป็นการโกงรูปแบบหนึ่งเกิดจาก การที่นักต้มตุ๋นทำทีว่ามีการพัฒนาโครงการเหรียญคริปโตฯ เข้ามาในตลาดเพื่อต้องการหลอกล่อให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายก่อนที่จะเทขาย ตลาดเพื่อต้องการหลอกล่อให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายก่อนที่จะเทขายทิ้ง หรือฉ้อโกงเงินในระบบและส่งผลให้เหรียญนั้นได้มูลค่า

ดังนั้น ผู้ต้องการลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจตลอดจนประเมินความเสี่ยงอย่างรอบด้าน ต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่มี และเลือกลงทุนอย่างไม่ประมาท เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียเช่นในต่างประเทศที่มีการฆ่าตัวตายจากการสูญเงินลงทุนแล้วกว่า 22 ราย