สศค.เผยดัชนีเชื่อมั่นอนาคตศก.ภูมิภาคเดือนก.พ.ปรับตัวดีขึ้น หลังมีความหวังโควิด-19 คลี่คลาย



นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนก.พ. 2564 ว่า จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค นั้น ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากคาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)ระลอกใหม่มีแนวโน้มคลี่คลายลง

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้อยู่ที่ระดับ 58.3 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตร เนื่องจากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยางพาราเพิ่มสูงขึ้น อาทิ ถุงมือแพทย์ ถุงยางอนามัย ยางยืด ยางรถยนต์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 58.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเช่นกัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตร เนื่องจากคาดการณ์ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลาย ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ อีกทั้งภาครัฐมีมาตรการในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิต

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 56.9 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมและภาคการลงทุน ที่รัฐนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตกอยู่ที่ 56.0 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้นโดยพลิกกลับมาขยายตัวได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะคลี่คลายส่งผลให้ความต้องการสินค้าและการลงทุนเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังเข้าสู่ฤดูการเก็บเกี่ยวผลผลิตภาคเกษตร นอกจากนี้ ยังมีนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจจากภาครัฐช่วยเพิ่มอุปสงค์

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคเหนืออยู่ที่ระดับ 55.1 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในอนาคตที่มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวของพืชผักและผลไม้ต่างๆ ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการเกษตรของรัฐบาล ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมได้ปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการของรัฐบาลโดยเฉพาะมาตรการด้านสินเชื่อผ่านธนาคารต่างๆ

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคกลางอยู่ที่ 53.0 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นโดยพลิกกลับมาขยายตัวได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและภาคการลงทุน เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวและเริ่มมีคำสั่งซื้อมากขึ้น อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนให้เกิดการลงทุนและการจ้างงาน 

ขณะที่ในส่วนของดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม. และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 47.0 แสดงถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น