

- หลังเลื่อนชำระภาษีมาช่วงท้ายปี
- ภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในไตรมาสที่สองของปีปฏิทินนี้ ถือว่าเป็นช่วงที่ยอดการจัดเก็บรายได้ต่ำที่สุด โดยเมื่อเทียบกับปีที่แล้วติดลบ 29 % โดยสาเหตุมาจากการที่เศรษฐกิจหยุดชะงักจากการชัตดาวน์ประเทศ หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้กรมสรรพากร ต้องมีมาตรการบรรเทาผลกระทบผู้เสียภาษี อาทิ การเลื่อนการชำระภาษี การเร่งคืนภาษีให้เร็วขึ้น และการลดอัตราการหักภาษี ณ ที่จ่าย เหลือ 1.5 % จากปกติ 3 % เป็นต้น
ส่วนในไตรมาสที่สามของปีปฏิทินปีนี้ การจัดเก็บรายได้เริ่มกลับมาเป็นบวก 5.7 % ซึ่งแม้ว่าสาเหตุที่ผลการจัดเก็บเป็นบวกในไตรมาสที่สาม ส่วนหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลจากเม็ดเงินภาษีที่ได้ถูกเลื่อนการชำระออกไปก่อนหน้านี้ และมาเริ่มชำระในเดือนสิงหาคม ทำให้รายได้ของไตรมาสที่สามเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม เครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายตัวก็เริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะผลการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่จัดเก็บบนการบริโภคภายประเทศ ในไตรมาสที่สาม เริ่มเป็นบวก 2.8 % แม้ว่า การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม บนสินค้านำเข้า จะยังติดลบ 18 % ก็ตาม ซึ่งการติดลบนั้นเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้มูลค่าสินค้านำเข้าลดลง รายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มก็ลดลงตามไปด้วย
ทั้งนี้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยเริ่มดีขึ้น เพราะได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว คาดว่าหลังจากนี้ตะดีขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีการระบาดของโควิดรอบที่สอง