

- 1 พ.ย.66 สนามบินเชียงใหม่เริ่มเปิดตลอด 24 ชั่วโมง รับไฮซีซันเที่ยวบินต่างประเทศ
- ขานรับนโยบายฟื้นท่องเที่ยว Quick Win คาดผู้โดยสารไตรมาส 4 ปี 66 โตทันที 30%
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป สนามบินนานาชาติเชียงใหม่จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง จากเดิมเปิดเพียงวันละ18 ชั่วโมง หรือตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น. แนวทางใหม่นี้สอดคล้องตามนโยบายนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เดินหน้าใช้การท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน Quick Win ด้วยการทำให้สนามบินหลักเพิ่มขีดความสามารถรองรับเที่ยวบินเส้นทางระหว่างประเทศเดินทางเข้าและออกไทยหลังเที่ยงคืนอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้นักท่องเที่ยวง่ายและมากขึ้น (Ease of Travelling) เพื่อให้สายการบินพิจารณาเพิ่มตารางบินและเที่ยวบินทั้งจากตลาดระยะใกล้และระยะไกลเข้าสู่เชียงใหม่จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวสำคัญของโลก ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางกระจายนักท่องเที่ยวไปยังจังหวัดอื่นๆ ในภาคเหนือได้ด้วย

คาดการณ์เมื่อสนามบินนานาชาติเชียงใหม่เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง ต้อนรับฤดูเดินทางหรือไฮซีซันตั้งแต่ไตรมาส4 เดือนพฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป จะสามารถเพิ่มเที่ยวบินและผู้โดยสารเข้าออกเติบโตเพิ่มอีก 30 % เนื่องจากการปลดล็อคข้อจำกัดด้านเวลาการเดินทางทางอากาศตามเส้นทางการบินระหว่างประเทศ สะท้อนศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการรองรับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มตลาดระยะใกล้และระยะไกล
รมว.สุดาวรรณ กล่าวว่า คณะผู้บริหาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” ร่วมทำกิจกรรมแจกของที่ระลึกผู้โดยสารที่เดินทางกับสายการบินไทยเวียตเจ็ทตั้งแต่วันแรก 1 พฤศจิกายน 2566 เที่ยวบิน VZ 822 เชียงใหม่-โอซาก้า (ญี่ปุ่น) ออกจากเชียงใหม่เมื่อ 00.30 น. (คืนวันที่ 31 ตุลาคม 2566) ถึงสนามบินนานาชาติคันไซ (โอซาก้า) ตามเวลาท้องถิ่น 07.50 น.

ปัจจุบันสนามบินนานาชาติเชียงใหม่รองรับเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศรวมทั้งสิ้นวันละ 150 เที่ยว มีผู้โดยสารเฉลี่ย21,537 คน/วัน จากเที่ยวบินในประเทศ 12 เส้นทาง และระหว่างประเทศ 18 เส้นทาง ต้นทางเมืองหลัก ได้แก่ ไทเป (ไต้หวัน) อินชอน (เกาหลี) คุนหมิง และปักกิ่ง (สาธารณรัฐประชาชนจีน) ฮ่องกง คาดเดือนเมษายน2567 จะเพิ่มเส้นทางบินตรง จากอินเดียได้อีก 2 เมือง คือ มุมไบและนิวเดลี รวมถึงจะขยายขีดความสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารเพิ่มเป็นปีละ 16.5 ล้านคน จากปัจจุบันรับได้ 8 ล้านคน ขณะนี้อยู่ขั้นตอนการศึกษาและออกแบบโครงการพัฒนา เฟสที่ 1 เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายดังกล่าว
โดยมี ทอท.เป็นหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเกี่ยวกับการจัดเตรียมความพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ ระบบคมนาคมขนส่ง จัดสรรพื้นที่ภายในสนามบินให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนนำสินค้าชุมชนมาวางขายสร้างรายได้สู่เศรษฐกิจฐานรากอย่างทั่วถึง และร่วมกับสายการบินกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง พิจารณาจัดตารางการบินอย่างเหมาะสม เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ รวมทั้งมาตรการดูแลเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบด้วย
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen