

- การเมืองในประเทศฉุดธุรกิจให้ทรุดตัว
- ดัชนีเชื่อมั่นเดือนก.ย.ดีดตัวเป็นเดือนที่5
- แต่ดัชนีเชื่อมั่น3เดือนข้างหน้าทรุดตัว
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ที่ผ่านมาว่า อยู่ที่ระดับ 85.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 84 เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 เนื่องจากปัจจัยบวกจากความต้องการบริโภค ในประเทศขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน
ทั้งนี้ เห็นได้หลังจากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวขึ้น รวมทั้งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ในช่วงที่ผ่านมาช่วยให้กำลังซื้อในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นรวมทั้ง การส่งออกและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น หลังจากหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ทำให้ประเทศคู่ค้านำเข้าสินค้าจากไทยได้มากขึ้น
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 93.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 94.5 เพราะผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อการระบาดของโควิด-19 รอบ 2 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ เดือนก.ย.จะดีขึ้น แต่คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าตกลงทุกตัว สะท้อนความกังวลของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า จากการสำรวจผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมกลุ่มตัวอย่าง 1,301 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วประเทศ พบว่าเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการมีความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศเพิ่มขึ้น 55.3% ราคาน้ำมัน 40.4% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 36.8% ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐให้เร่งเบิกจ่ายงบประมาณผ่านโครงการลงทุนภาครัฐทั้งในส่วนกลางและระดับภูมิภาคเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมกับออกมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมช่วยเหลือเอสเอ็มอี หลังมาตรการพักชำระหนี้จะสิ้นสุดในเดือนต.ค. อาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของธุรกิจไปสู่การเลิกกิจการได้ และเสนอให้หน่วยงานภาครัฐจัดซื้อจัดจ้างสินค้าที่ผลิตจากผู้ประกอบการในประเทศ