ศบศ.เคาะ! “ภูเก็ต” รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 เม.ย.นี้ ชี้หากฉีดวัคซีนโควิดแล้วไม่ต้องกักตัว



  • ให้ท่องเที่ยวในพื้นที่จำกัดไว้เท่านั้น
  • มีหลักฐานฉีดวัคซีนที่ได้รับรองจาก WHO

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ) หรือ ศบศ.ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ละรมว.กลาโหมเป็นประธานว่าที่ประชุมเห็นชอบในหลักการให้เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบแล้วเข้าประเทศไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2564 โดยให้เป็นการท่องเที่ยวในพื้นที่จำกัด (seal area) โดยเริ่มจากพื้นที่จ.ภูเก็ต ซึ่งเรียกแผนการกักตัวนักท่องเที่ยวแบบ “0+7” ซึ่งไม่ต้องเป็นการกักตัวในโรงแรมอย่างเดียวแต่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ในพื้นที่มีการกำหนดไว้ หลังจากนั้นในเดือน ก.ค.2564 จะมีการผ่อนปรนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั่วจังหวัดภูเก็ตโดยไม่ต้องกักตัว

อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนซึ่งเป็นวัคซีนประเภทใดก็ได้ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโรค (WHO) มีการตรวจโควิด-19 ที่สนามบินตามขั้นตอนที่ได้มีการกำหนดไว้ รวมทั้งให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นเพื่อติดตามการเดินทางให้ไปในโซนที่กำหนดเท่านั้น

สำหรับในพื้นที่อื่นๆที่พึ่งพารายได้การท่องเที่ยวจากต่างชาติสูงได้แก่ จ.กระบี่ จ.พังงา พื้นที่เกาะสมุย พื้นที่ อ.พัทยา จ.ชลบุรี และจ.เชียงใหม่ สามารถทำได้เหมือนกับในจังหวัดภูเก็ตเช่นกันแต่ต้องเสนอแผน ความพร้อมมายังรัฐบาลซึ่งรวมทั้งแผนการปรับปรุงพื้นที่ ดูแลนักท่องเที่ยว เพื่อให้รัฐบาลกระจายวัคซีนลงไปเพิ่มเติมซึ่งตามหลักต้องมีวัคซีนให้ถึง 70% ของประชากรในพื้นที่ทั้งประชากรหลักและประชากรแฝงซึ่งเป็นเงื่อนไขที่จะประกอบการอนุมัติให้เปิดการท่องเที่ยวรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ด้วย

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่าการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เร็วขึ้นตามแผนที่ได้รับความเห็นชอบจาก ศบศ.ในครั้งนี้คาดว่าจะทำให้สามารถรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในภูเก็ตในไตรมาสที่ 3 ได้ประมาณ 1 แสนคน ซึ่งเร็วขึ้นจากเดิมที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

ส่วนจะสามารถเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวและเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจากเดิมที่ สศช.คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 3 ล้านคนในปีนี้หรือไม่นั้นต้องดูในเรื่องของผลตอบรับจากที่มีการทดลองเปิดรับนักท่องเที่ยวในจ.ภูเก็ตก่อนว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ตามเป้าหมายหรือไม่ รวมทั้งต้องดูว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะเป็นกลุ่มที่ใช้เงินสูงหรือไม่ถ้าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงก็จะช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวได้มากขึ้น