
วันที่ 19 ก.ค.2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า วานนี้ (18ก.ค.) มีการพยากรณ์ จากการประชุมร่วมกับผู้ที่ทำงานในแวดวงแมสมีเดีย ทั้ง ทีวี วิทยุ และออนไลน์ เพื่อคาดการณ์ความเป็นไปได้ของการติดเชื้อของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้นำเสนอให้พ่น้องประชาชนได้รับทราบ โดยมี 2 รูปแบบของการคาดการณ์
1.มาจากคณะสิ่งแวดล้อมและประชากรศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล โดย รศ.ดร. นวลจันทร์ สิงห์คราญ ได้ฉายภาพโดยใช้ข้อมูลถึง ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2564 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า สถานการณ์แย่ที่สุดถ้าจะเกิดเคสหากไม่ทำอะไร ไม่ได้ช่วยกันและปล่อยให้การติดเชื้อไปเรื่อยๆ ค่าบนหรือการติดเชื้อสูงสุดจะอยู่ที่ 31,997 ราย/วัน แต่แม้ว่าหากเราทำดีที่สุด จะอยู่ที่ 9,018-12,605 ต่อวัน ส่วนค่ากลางจะอยู่ที่ 9,695 – 24,204 ราย/วัน
“เรียนว่าดีที่สุดก็ยังแตะเลขหมื่น ถ้ามาตรการนี้เกิดขึ้นโดยเร็ว ทุกคนร่วมมือกัน ค่ากลางที่เป็นค่าล่างก็ยังสูงทีเดียว คือจะอยู่ที่ 9,695 – 24,204 ราย/วัน”

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า ส่วนอีกการศึกษาหนึ่ง เป็นการคาดการณ์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งทาง WHO ได้นำไปอ้างอิง ซึ่งใช้รูปแบบของการคาดการณ์ แล้วใช้การฉีดวัคซีนที่จะเกิดขึ้นถึงปลายปีว่า ถ้าหากเราฉีดวัคซีนได้ดี เคสที่ดีที่สุด( Best case) จะลงไปประมาณเดือนกันยายน จากปัจจุบันจะไต่ขึ้นไป โดยจะเห็นค่าไต่ขึ้นไปประมาณหมื่นกว่าราย จะสูงเกินกว่า15,000 ต่อวัน ในช่วงเดือนสิงหาคมต่อกันยายน
ทั้งนี้ถ้าแย่ที่สุดคือ กราฟที่โด่งที่สุดคือ 22,000 กว่าราย ในช่วงของสิงหาคม-กันยายน แล้วจะค่อยๆลงมาในเดือนตุลาคม หากวัคซีนมาได้ตามที่กำหนด ในช่วงเวลาไตรมาสที่ 4
นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าวสรุปข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 ฉบับที่ 28 ซึ่งประกาศไปเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา เนื้อหาสาระสำคัญ อาทิ มีการประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดจากเดิม 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด เพิ่ม จ.ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และพระนครศรีอยุธยา พื้นที่ควบคุมสูงสุดจากเดิม 24 จังหวัด เป็น 53 จังหวัด พื้นที่ควบคุมจาก 25 จังหวัด เป็น 10 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูงจาก 18 จังหวัดเป็น 1 จังหวัด คือ จ.ภูเก็ต ส่วนพื้นที่สีเขียวจะไม่มีเลย
ส่วนประชาชนและกิจการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามออกนอกเคหสถาน เวลา 21.00-04.00 น. ยกเว้นบุคคลที่ได้รับอนุญาต ลดการเดินทางในพื้นที่และงดการเดินทางข้ามจังหวัด เว้นแต่การเดินทางเพื่อซื้อเครื่องอุปโกคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต การพบแพทย์ การรับวัคซีน ให้ WFH 100% ทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ และให้เอกชน WFH เต็มขีดความสามารถ จำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกิน 50 % ของความจุ ของผู้โดยสารสำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท *ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนมากกว่า 5 คน
ส่วนร้านอาหาร/เครื่องดื่ม ห้ามทานในร้าน+take away เท่านั้น เปิดได้ถึง 20.00 น. ห้าง/ศูนย์การค้า/คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะแผนก ซูเปอร์มาร์เก็ต ยาและเวชภัณฑ์ และพื้นที่การให้บริการฉีดวัคซีนหรือบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นๆ ของภาครัฐ เปิดได้ถึง 20.00 น. โรงแรม เปิดได้ปกติ งดกิจกรรมจัดการประชุม การสัมมนา หรือการจัดเลี้ยง ร้านสะดวกซื้อ และตลาดสด ปิดตั้งแต่ 20.00-04.00 น. โรงเรียน/สถานศึกษา/สถาบันการศึกษา เรียนผ่านระบบทางไกล งดใช้อาคารในการเรียนแบบ ON-SITE
ส่วนกิจการต่อไปนี้เปิดได้ตามความจำเป็น แต่ต้องดำเนินการตามมาตรการ สธ. ได้แก่ โรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิกแพทย์รักษาโรค ร้านขายยา ร้านค้าทั่วไป โรงงาน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม ธุรกิจสื่อสาร คมนาคม ไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ ร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ก่อสร้าง ร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดอันจำเป็น สถานที่จำหน่ายแก๊สหุงต้ม เชื้อเพลิง ปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส รวมทั้งบริการส่งสินค้าและอาหารตามสั่ง










