- ยังต้องจับตาโควิด-19 หวั่นล็อคดาวน์
- การบริโภค-นโยบายการเงินการคลังของสหรัฐฯ
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้าจะดีขึ้นกว่าปีนี้จากปัจจัยต่างๆ ทั้งการบริโภคที่เพิ่มขึ้น มาตรการต่างๆที่รัฐออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว เห็นได้จากมูลค่าการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นสศค.จึงเตรียมจะปรับประมาณการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ปี 2564 ใหม่ จากเดิมคาดว่าเศรษฐกิจปี 2564 จะขยายตัวที่ 4.5% ในช่วงต้นปี 2564
“เดิมสศค.มองว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ในปี 2563 จะติดลบ 7.7% แต่เมื่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 ว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวที่ติดลบ 6.4% ซึ่งดีกว่าที่คลังคาดการณ์อย่างมาก จึงอาจทำให้ปีนี้เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีกว่าที่คิด ดังนั้นจึงมองว่าตัวเลขจีดีพีปีหน้าที่ตั้งไว้ว่าจะขยายตัวได้ 4.5% อาจจะลดลง”
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคือ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ไม่แน่นอน ซึ่งจะต้องไม่ให้เกิดการล็อคดาวน์อีกอย่างช่วงที่ผ่านมา เพราะเงินที่ใช้สำหรับการเยียวยามากกว่าใช้กับมาตรการป้องกันโควิด- 19 ดังนั้นประชาชนทุกคนจะต้องระมัดระวังป้องกันตัวเองอยู่เสมอ
ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องติดตาม คือภาคการบริโภค ซึ่งคิดเป็น 60% ของจีดีพี เนื่องจากในปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป 100% ดังนั้นจึงต้องรอดูว่าปีหน้าการบริโภคจะกลับมามากน้อยแค่ไหนนอกจากนี้ยังต้องรอดูนโยบายการเงินการคลังของสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้นายโจ ไบเดน ขึ้นมารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ในขณะที่การเมืองก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องจับตามองเช่นเดียวกันถึงแม้จะส่งผลไม่มากนัก
