“วีรศักดิ์” เผยพิษโควิด-19 กระทบส่งออกอัญมณี-เครื่องประดับลดลงต่อเนื่อง



นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า จากผลพวงของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทยในไตรมาสแรกเมื่อหักทองคำฯ ออกลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 20.18 %หรือมีมูลค่า 1,563 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังขึ้นแท่นสินค้าส่งออกที่สำคัญในอันดับที่ 2 ด้วยมูลค่าการส่งออกรวมอยู่ที่ 5,442.28 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตสูงถึง 71.85% จากการส่งออกทองคำในสัดส่วนราว 71% ได้สูงกว่า 2.20 เท่า เนื่องจากราคาทองคำในตลาดโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง

ด้านนางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ กล่าวว่า อัญมณีและเครื่องประดับไทยถือได้ว่าเป็นสินค้าสำคัญที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศ และประเทศไทยก็ถือได้ว่าเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับอันดับที่ 12 ของโลก และเป็นผู้ส่งออกเครื่องประดับเงินอันดับ 1 ของโลก อีกทั้งเป็นผู้ส่งออกพลอยสีอันดับ 3 ของโลก 

ทั้งนี้เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งทำให้การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่แท้จริง (หลังหักทองคำฯในระหว่างเดือนมกราคม– มีนาคม 2563 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 20.18 %โดยมีมูลค่าส่งออก 1,563 ล้านเหรียญสหรัฐ(47,357.71 ล้านบาท)  โดยตลาดหลักอย่างสหภาพยุโรป ฮ่องกง และตลาดสำคัญอย่างกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและจีน ต่างปรับตัวลดลง แต่หากไม่หักทองคำออก ไทยส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไทย เติบโตสูงถึง 71.85 % หรือมีมูลค่า 5,442.28 ล้านเหรียญสหรัฐ (165,058.21 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่มีมูลค่า3,166.96 ล้านเหรียญสหรัฐ (99,930.57 ล้านบาทเนื่องจากราคาของทองคำในช่วงนี้พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง นับเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญในอันดับที่ 2 รองจากรถยนต์ และคิดเป็นสัดส่วน 8.68 %ของสินค้าส่งออกโดยรวมของไทย โดยตลาดส่งออกรวมทองคำที่เติบโตได้ดี อาทิ สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เป็นต้น  

อย่างไรก็ตามจากผลกระทบดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับทั่วโลกซึ่งทำให้การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำฯลดลงจากมาตรการล็อคดาวน์ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่เป็นตลาดหลักสำคัญ อย่าง จีน ฮ่องกง ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ทำให้ไม่สามารถส่งออกได้ นอกจากนี้ การไม่มีนักท่องเที่ยวก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการค้าปลีก เพื่อหาแนวทางเยียวยาและ บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ทุกภาคส่วน GIT ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอัญมณีและเครื่องประดับเพื่อหารือแนวทางในการเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ และความช่วยเหลือด้านการเงินทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเบื้องต้น ได้หารือเรื่องขอสินเชื่อ Soft Loan ในมาตรการเยียวยาอย่างเร่งด่วนและ หารือเรื่องการนำสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเพื่อใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อแล้ว