ราคาจริงอยู่นี่!…ผู้ว่า รฟม.โต้ “สามารถ” ยันค่าโดยสารรถไฟฟ้าสีส้มแค่ 15-45 บาท



  • ลั่นชัดเป็นราคาที่มีที่มาที่ไป คือเทียบเคียงค่าโดยสาร สีนำ้เงิน- ม่วง
  • ชี้คำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภค (Non-food)
  • พร้อมมีการสำรวจความเห็นผู้ใช้บริการ-เทียบระบบขนส่งอื่น

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เปิดแถลงข่าว ถึงประเด็นที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้โพสต์ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย วิจารณ์ว่าค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีส้มว่า  เมื่อเปิดให้บริการแล้ว ราคาก็จะแพงเช่นกัน ในช่วงที่มีการโต้ตอบเรื่องปัญหา การขยายสัมปทานและราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียว ระหว่างกระทรวงคมนาคมและกรุงเทพมหานคร ที่กำกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

โดยนายภคพงศ์ ระบุว่าราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งในปีเปิดให้บริการคือระหว่างปี 2566 หรือ 2567 ซึ่งคาดการณ์อัตราค่าโดยสาร ของสายสีส้มตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) จะมีราคาที่ 15-45 บาท เป็นราคาที่มีที่มาที่ไป และจะเป็นราคาที่ รฟม.จะใช้เจรจากับเอกชนที่ชนะการประมูล ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันตก ด้วย ส่วนราคาที่มีการกล่าวอ้างถึง ที่ค่าโดยสารเริ่มต้น 17 บาท และมีการคิดค่าโดยสารตามระยะทาง 3-4 บาทต่อสถานีโดยมีอัตราค่าโดยสารสูงสุด 62 บาทเมื่อผู้โดยสารเดินทางตั้งแต่ 12 สถานีขึ้นไป โดยอัตราดังกล่าว เป็นแค่อัตราทีาระบุในเอกสาร สำหรับคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนแบบ PPP อ้างอิง ณ วันที่ 1 มกราคม 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับเอกชนทุกราย ในการประเมินรายได้จากการลงทุน 

ทั้งนี้ราคาค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีส้มที่ราคา 15-45 บาท นั้น ยืนยันว่า เป็นราคา ที่มีที่ไปที่มา โดยเป็นการคำนวณตามดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI  Non-food ,มีการเทียบเคียงกับราคาค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงในปัจจุบัน มีการสำรวจความเห็นของผู้ใช้บริการ และเทียบเคียงกับระบบขนส่งสาธารณะอื่น โดยยืนยันว่าวิธีดังกล่าวนั้นซึ่งมีการใช้คำนวณค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในปัจจุบัน ซึ่งมีการคำนวณเพื่อปรับราคาค่าโดยสารทุก 2 ปี หากราคาดัชนีผู้บริโภคไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับลดลงในบางปี ราคาค่าโดยสารก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งเกิดขึ้นแล้วในอดีต 7-8 ปีที่ผ่านมา

“ ยืนยันว่า รฟม. มีความเข้าใจในเรื่องของการกำหนดราคาค่าโดยสารที่จะต้องพิจารณาเป็นโครงข่าย ระบบรถไฟฟ้าทั้งหมด โดยหากมีการกำหนดค่าโดยสารที่แพงเกินไปก็จะส่งผลกระทบ ทำให้ประชาชน เข้ามาใช้ระบบน้อยหรือไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ซึ่งเป็นเรื่องที่ รฟม.ให้ความสำคัญ”นายภคพงค์กล่าว

ทั้งนี้ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม จากฐานข้อมูลของรฟม.ขณะนี้ เมื่อมีการเปิดให้บริการในปี 2567 ในส่วนของสายสีส้มตะวันออก จะมีผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่วันละกว่า 100,000 คน เมื่อมีการเปิดให้บริการครบทั้งเส้นรวมกับสายสายสีส้มตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี  ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 2569 ก็จะมีผู้ใช้บริการมากกว่าวันละ 400,000 คน

ส่วนปัญหาข้อพิพาทในการเปิดประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก. ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการชี้ขาดของศาลปกครองสูงสุด นั้น   ผู้ว่าการ รฟม. ระบุว่า หากศาลมีคำวินิจฉัยถึงที่สุดแล้วจะใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 2 เดือนในการเดินหน้าโครงการหรือประมาณเดือนมีนาคม 2564 โดยปัญหาดังกล่าวจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อกรอบเวลาการดำเนินการและต้องปรับเวลาในการเปิดให้บริการของโครงการรถไฟฟ้าช่วงนี้แต่อย่างใด