รับอานิสงส์ความต้องการรถยนต์เพิ่ม ญี่ปุ่นเผยยอดส่งออก-นำเข้าปรับพุ่ง สร้างสถิตินิวไฮในเดือน ธ.ค.



วันนี้ (20 ม.ค.65) กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เปิดเผยรายงานเบื้องต้นว่า ยอดส่งออกและนำเข้าเดือน ธ.ค. พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากความต้องการรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้รายงานดังกล่าวระบุว่า ยอดส่งออกเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 17.5% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 7.9 ล้านล้านเยน (6.9 หมื่นล้านดอลลาร์) ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 41.1% แตะที่ 8.5 ล้านล้านเยน ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11

ทั้งนี้ ประเทศญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าในเดือนธ.ค.ที่ระดับ 5.824 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นการขาดดุลติดต่อกัน 5 เดือน

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาสินค้ารายประเภท ยอดส่งออกรถยนต์เดือน ธ.ค.ของญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 17.5% เมื่อเทียบรายปีขณะที่ยอดส่งออกเหล็กทะยานขึ้น 75.1% เนื่องจากปัญหาติดขัดของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น เริ่มบรรเทาลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ทั้งนี้ข้อมูลของกระทรวงการคลังยังระบุว่า การที่เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในเดือนธ.ค. ทำให้ราคานำเข้าน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลวในเดือน ธ.ค. พุ่งขึ้นกว่า 2 เท่า โดยปรับตัวขึ้น 116.6% และ 100.5% ตามลำดับ ส่วนราคานำเข้าถ่านหินพุ่งขึ้น 178.4%

สำหรับตลอดปี 2564 ยอดส่งออกของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 21.5% แตะที่ 83.1 ล้านล้านเยน ซึ่งปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ขณะที่ยอดนำเข้าปี 2564 เพิ่มขึ้น 24.3% ซึ่งปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 ปีเช่นกัน โดยแตะที่ 84.6 ล้านล้านเยน