รับสังคมสูงวัย! กรมบัญชีกลางปรับหลักเกณฑ์เบิกค่ายาบรรเทาอาการข้อเสื่อม ดีเดย์! 19 เม.ย.64



นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้ร่วมกับราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย และชมรมศัลยแพทย์ข้อสะโพกข้อเข่าแห่งประเทศไทย พิจารณาทบทวนและปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกค่ายาบรรเทาอาการข้อเสื่อมที่ออกฤทธิ์ช้า และกลุ่มยาฉีดเข้าข้อบรรเทาอาการข้อเสื่อม เนื่องจากในปีงบประมาณ 2563 ที่ผ่านมามีจำนวนผู้ป่วยที่ใช้สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการที่ได้รับยากลูโคซามีนซัลเฟต (glucosamine) จำนวน 39,560 ราย เป็นจำนวนเงินกว่า 101.4 ล้านบาท

ประกอบกับหลักเกณฑ์การเบิกค่ายาบรรเทาอาการข้อเสื่อมที่ออกฤทธิ์ช้า และกลุ่มยาฉีดเข้าข้อบรรเทาอาการข้อเสื่อม ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2558 รวมถึงราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย ได้ทำการศึกษาวิจัยข้อมูลผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม มีผลการศึกษาพบว่าปัจจุบันผู้ป่วยมีอายุเฉลี่ยลดลง อีกทั้งการได้รับยากลูโคซามีนซัลเฟตต้องได้รับยาในขนาด 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลานาน 3 ปี ซึ่งช่วยลดอาการปวดและช่วยลดการแคบของข้อได้ดีกว่าการใช้ยาในระยะสั้น

อย่างไรก็ตามการปรับปรุงหลักเกณฑ์เบิกค่ายาบรรเทาอาการข้อเสื่อมที่ออกฤทธิ์ช้า  จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2564 เป็นต้นไป โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1.การเบิกจ่ายค่ายากลูโคซามีนซัลเฟต ให้เป็นไปตามแนวทางกำกับการเบิกจ่ายค่ายากลูโคซามีนซัลเฟต โดยให้ใช้ยากลุ่มนี้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมแบบปฐมภูมิ (ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมที่มีผล X-ray ตั้งแต่ Kellgren and Lawrence grade 1 – 3 ) เท่านั้น โดยการสั่งใช้ยาต้องไม่เกินครั้งละ 12 สัปดาห์

2.การเบิกจ่ายค่ายาคอนดรอยตินซัลเฟต ไดอะเซอเรน และกลุ่มยาฉีดเข้าข้อบรรเทาอาการข้อเสื่อม ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเบิกค่ายานอกบัญชียาหลักแห่งชาติในหนังสือกระทรวงการคลัง ลงวันที่ 24 กันยายน 2555

3.การเบิกจ่ายค่ายาบรรเทาอาการข้อเสื่อมตามข้อ 1 และ 2 ให้เบิกจ่ายในระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น ผู้มีสิทธิไม่สามารถนำใบเสร็จรับเงิน มายื่นเบิกค่ายากับส่วนราชการต้นสังกัดได้ทุกกรณี

“การปรับปรุงหลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าว หวังให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาเพื่อทำการรักษาโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ส่งผลให้การควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยในการเดินทางมารับยา อีกทั้งจะทำให้กรมบัญชีกลางมีฐานข้อมูลสำหรับตรวจสอบและประเมินคุณภาพในการรักษาร่วมกับราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทยต่อไป”

ทั้งนี้ สถานพยาบาล ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามหนังสือ หรือโทรสอบถามที่ Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลข 02-270-6400 ในวัน เวลาราชการ