รัฐอ่วมโควิด จัดเก็บรายได้ 10 เดือนต่ำเป้ากว่า 2.1 แสนล้านบาท



  • ธนาคารรัฐก็นำกำไรไปช่วยเหลือลูกหนี้
  • สรรพากรคาดโควิดไม่กระทบเป้าจัดเก็บรวม

วันที่ 31 ส.ค.2564 น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 (ต.ค.2563-ก.ค. 2564) หลังจากหักรายการคืนภาษีของกรมสรรพากร อากรคืนกรมศุลกากร และอื่นๆ อยู่ที่ 1.91 ล้านล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 216,878 ล้านบาท หรือต่ำกว่า 10.2% แต่ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร ต่ำกว่าประมาณการ 142,767 ล้านบาท หรือต่ำกว่า 9% ขณะที่กรมสรรพสามิต ต่ำกว่าประมาณการ 67,595 ล้านบาท  หรือต่ำกว่า 12.9%

และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ ต่ำกว่าประมาณการ 24,282 ล้านบาท หรือต่ำกว่า 16.5% ส่วนการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากร แม้ยังต่ำกว่าเอกสารงบประมาณ 2,128 ล้านบาท หรือต่ำกว่า 2.4% แต่มีแนวโน้มจัดเก็บรายได้ดีขึ้น ดูจาก การจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 6,316 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปีที่แล้ว เป็นผลจากการส่งออกและนำเข้าที่กลับมาขยายตัวได้ดี

“สาเหตุที่ทำให้จัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจน้อยลง จนมีผลต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ประกอบกับการดำเนินนโยบายการคลังและภาษีเพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องและบรรเทาภาระแก้ประชาชนและผู้ประกอบการ”

รายงานจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า ยอดจัดเก็บรายได้ติดลบลงทุกรายการ โดยเฉพาะจาก 3 กรมภาษี กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากรเก็บรายได้รวมกัน 1,991,155 ล้านบาท (รายได้จริงก่อนหัก) ซึ่งลดลงกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณที่ตั้งไว้ 212,490 ล้านบาท ด้านการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจก็ลดลงเช่นกันมีรายได้ทั้งสิ้น 123,022 ล้านบาท ลดลง 24,282 ล้านบาทเมื่อเทียบกับเป้าหมาย เนื่องจากปีนี้รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่มีผลประกอบการลดลงจากผลกระทบโควิด-19 รวมถึงธนาคารรัฐก็นำกำไรไปช่วยเหลือลูกหนี้และมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้เสียที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ขณะที่รายได้อื่น จัดเก็บได้ 146,426 ล้านบาท ลดลงกว่าเป้าหมาย 2,343 ล้านบาท

ทั้งนี้กระทรวงการคลังมีการประเมินว่าการจัดเก็บรายได้ตลอดงบประมาณปีนี้ คาดว่าจะทำได้ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 10% หรือมีรายได้ลดลงกว่า 200,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคลังยืนยันว่าจะยังสามารถปิดหีบงบประมาณปีนี้ได้ หลังจากมีการขยายการกู้เงินในส่วนกรอบรายจ่ายสูงกว่ารายได้มาใช้แล้ว

ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพากรปีนี้ คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด แต่จะทำได้เป้าหมาย 2.08 ล้านล้านบาทมากน้อยแค่ไหนนั้นยังตอบไม่ได้ โดยกรมจะพยายามจัดเก็บให้ได้มากที่สุด ซึ่งช่วงที่ผ่านมาภาษีบางรายการเก็บได้ดีขึ้น เช่น การเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เนื่องจากกรมฯมีการใช้เทคโนโลยีช่วยขยายฐานภาษีทำให้ผู้ที่ไม่เคยเสียภาษีให้เข้ามาอยู่ในระบบ แต่ขณะเดียวกันกรมฯ ก็ให้ความเป็นธรรมไม่ได้เข้าไปทำให้ประชาชนหรือภาคธุรกิจเดือดร้อน เพราะเข้าใจว่าเป็นช่วงที่การระบาดโควิดกำลังส่งผลกระทบไปทั่ว