รถไฟไทยเดินหน้าแก้แหล่งเสื่อมโทรมภายในที่ดินรถไฟ



  • รถไฟไทยเดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิต
  • แก้ปัญหาน้ำท่วม-จราจราจร-อาชญากรรม-แหล่งเสื่อมโทรม
  • พร้อมร่วมมือกับ ปตท. จัดทำโครงการปลูกป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ

นายสมยุทธิ์ เรือนงาม รองผู้อำนวยการฝ่ายด้านปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาผู้บุกรุก บริหารจัดการ และจัดระเบียบการใช้พื้นที่ บริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 นิคมรถไฟมักกะสัน บางชื่อ และจิตรลดา เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟท.ได้เริ่มดำเนินการเข้าปรับปรุงพื้นที่ของรถไฟโดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนรถไฟ และสังคมส่วนรวมให้ได้รับประโยชน์สูงสุด รวมถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง ปัญหาด้านการจราจร ปัญหาอาชญากรรม การเกิดแหล่งเสื่อมโทรม ปัญหาด้านสาธารณสุข ตลอดจนการเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในพื้นที่ 

ส่วนของการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังและปัญหาจราจร การรถไฟฯ ได้เริ่มโครงการขุดลอกแก้มลิงและระบบระบายน้ำภายในชุมชนรถไฟ บริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 ไปแล้ว เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบนถนนวิภาวดีรังสิต และในพื้นที่เขตจตุจักร โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่กองพลพัฒนาที่ 1 กองทัพบก ในการถอนย้ายสิ่งปลูกสร้างที่กีดขวางทางระบายน้ำ การกำจัดวัชพืช ทำทางลำลองเข้าพื้นที่ และการขุดลอกบ่อรองรับน้ำ 

“จากการดำเนินการขุดลอกแก้มลิงฯ ในพื้นที่บ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 พบว่าช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตได้เป็นอย่างดี โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเขตกรุงเทพฯได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อนนูรีและมีฝนตกชุกหลายวัน โครงการแก้มลิงฯ บ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 สามารถช่วยรองรับการระบายมวลน้ำจากเขตจตุจักรและถนนวิภาวดีรังสิตเข้าพื้นที่ได้ปริมาณมาก จนไม่เกิดน้ำท่วมขังบนถนนวิภาวดีฯตลอดสายตั้งแต่เขตดินแดงจนถึงสนามบินดอนเมือง” นายสมยุทธิ์กล่าว

นายสมยุทธิ์ กล่าวอีกว่า โครงการขุดลอกแก้มลิงในพื้นที่บ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 การรถไฟฯ ต้องการนำที่ดินของรฟท.มาบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม รวมทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และกองอำนวยการน้ำแห่งชาติที่ต้องการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังบนถนนสายหลักของกรุงเทพฯในช่วงฤดูฝน โดยการรถไฟฯ ตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถขุดลอกบ่อโครงการแก้มลิงฯ จำนวน 2 บ่อให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งสามารถรองรับการระบายน้ำได้สูงสุดถึง 157,001 ลูกบาศก์เมตร

นอกจากนี้ รฟท.ยังร่วมมือกับชุมชนในการเข้าพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกันปรับปรุงพื้นที่ภายในตลาดบริเวณบ้านพักนิคมรถไฟ กม.11 ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด ปลอดภัย พร้อมกับรณรงค์ให้ใช้มาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19  และภายในเร็วๆนี้ รฟท.ยังมีแผนยกระดับคุณภาพชีวิตของคนรถไฟ และชาวกรุงเทพฯ โดยร่วมมือกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดทำโครงการปลูกป่าบริเวณโดยรอบพื้นที่แก้มลิง เพื่อพัฒนาพื้นที่สีเขียวเป็นปอดแห่งใหม่ของชาวกรุงเทพฯ อีกด้วย