วันที่ 5 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องความสับสนในเรื่องโครงการที่รัฐบาลออกไปก่อนหน้านี้ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่อาจจะมีการยกเลิกหรือเลื่อนการเข้าพักโรงแรมหรือที่พักอาศัยต่างๆ ซึ่งทางกระทรวงการคลังได้เจรจากับกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมในประเทศไทย เพื่อขอให้พิจารณาเรื่องการคืนเงินให้แก่ประชาชนที่มีการจองไว้ก่อนหน้านี้ หรือแม้กระทั่งการขอเลื่อนการเข้าพักให้สามารถดำเนินการโดยง่าย
ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงการ ก็ได้ขอให้มีการปรับบางส่วนของระบบให้รองรับการเข้าใช้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต
“ส่วนโครงการคนละครึ่ง และโครงการอื่นๆ ของรัฐ ที่บางส่วนมีความกังวลว่าจะต้องมีการเสียภาษีเนื่องจากเป็นการได้มาซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งนั้น ได้รับการยืนยันจากกระทรวงการคลังแล้วว่าจะไม่นำมาเสียภาษี หรือนำมาคิดเป็นภาษีรายได้ ขอให้ทุกคนคลายกังวล”
นายอนุชา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการเยียวยาประชาชนในอนาคต กระทรวงแรงงานได้ออกประกาศไปวันที่ 4 มกราคม หรือเมื่อวาน ถึงการลดอัตราการสมทบเงินกองทุน ซึ่งเป็นทั้งส่วนของนายจ้างและผู้ประกันตน โดยสามารถดูรายละเอียดได้ในเว็บไซต์กระทรวงแรงงาน นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการจ่ายสิทธิประโยชน์ ชดเชยการว่างงานจากเหตุสุดวิสัย สำหรับลูกจ้างที่มีการประกันตนและมีเงินสมทบครบ 6 เดือน ใน 15 เดือนที่ผ่านมา จะได้รับสิทธิทดแทนอัตรา 50% ของค่าจ้างรายวัน ตลอดระยะเวลาการกักตัวแล้วแต่กรณี ซึ่งเป็นมาตรการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไม่ใช่เพียง 28 จังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุด
