สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า บริษัท มูราตะ แมนูแฟคเจอริ่ง ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่น ได้สร้างโรงงานแห่งใหม่ในประเทศไทยเสร็จแล้ว และจะเริ่มการผลิตในเดือนพฤศจิกายนใรปีนี้ ซึ่งจะทำให้การเติบโตลดลง แม้ว่าผลประกอบการจะตกต่ำก็ตาม
ซัพพลายเออร์ของ Apple คาดว่าจะใช้จ่ายหลายหมื่นล้านเยนเพื่อผลิตเต็มรูปแบบที่โรงงานในจังหวัดลำพูนทางภาคเหนือของประเทศไทยภายในปี 2571 โรงงานแห่งนี้เป็นเดิมพันเกี่ยวกับความต้องการในอนาคตสำหรับตัวเก็บประจุหลายชั้นขนาดเล็กที่ผลิตจากเซรามิก (MLCC) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในสมาร์ทโฟนและรถยนต์อีวี โดยมูราตะเป็นผู้นำตลาด MLCC ทั่วโลกด้วยส่วนแบ่งประมาณ 40%
“เราสามารถวางใจการเติบโตของตัวเก็บประจุในระยะยาวได้” โนริโอ นากาจิมะ ประธานบริษัทมุราตะ กล่าวในพิธีเปิดโรงงานเมื่อวันจันทร์ ซึ่งเขากล่าวว่าจะสร้างงานได้ 2,000 ตำแหน่ง
นี่จะเป็นการผลิต MLCC ครั้งแรกของ Murata ในประเทศไทย สมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องอาจมีตัวเก็บประจุดังกล่าวได้ 1,000 ตัว ส่วนประกอบนี้สร้างยอดขายของกลุ่ม มูราจะมากกว่า 40%
ขณะเดียวกันมูราตะยังคงผลิต MLCC ที่ทันสมัยที่สุดในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่กำลังเพิ่มการผลิตของบริษัทอื่นๆ ในจีน ฟิลิปปินส์ และที่อื่นๆ การลงทุนของไทยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามนี้เพื่อให้แน่ใจว่าอุปทานมีเสถียรภาพสำหรับลูกค้าทั่วโลก
กำไรสุทธิของกลุ่มมูราตะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวและผู้บริโภคที่รอซื้อโทรศัพท์ใหม่นานขึ้น มูราตะ คาดว่ากำไรจะลดลงเป็นปีที่สองติดต่อกันเป็น 164 พันล้านเยน แต่การลงทุนของไทยแสดงให้เห็นว่า มูราตะ ยังคงมั่นใจเกี่ยวกับแนวโน้มของ MLCC
“ตลาดสมาร์ทโฟนจะไม่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แต่การใช้จ่ายด้านทุนของเราจะดำเนินต่อไป” นากาจิมะกล่าวเมื่อวันจันทร์
