

- คาดทำมีเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจ 4-8 หมื่นล้านบาท
- พร้อมหนุนออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ
- นำร่องเปิดผับถึงตี 4 ดันท่องเที่ยว-ธุรกิจกลางคืนคึกคัก
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจกล่าวถึงมาตรการของขวัญปีใหม่ 66 ของรัฐบาลว่า การออกของขวัญปีใหม่ ถือเป็นรอยต่อที่สำคัญ เป็นความเหมาะสมในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยเศรษฐกิจปัจจุบันฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไป และการฟื้นตัวยังไม่กระจายตัวเริ่มฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยว และมีภาคอื่นที่เกี่ยวข้องได้รับอานิสงส์ ดังนั้น การออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งไทยเที่ยวไทย และต่างชาติเที่ยวไทยตั้งแต่ไตรมาส 1/66 เป็นต้นไป ถือเป็นมาตรการสำคัญและควรสนับสนุนให้รัฐดำเนินการเป็นอันดับ 1
สำหรับแซนด์บ็อกซ์ขยายเวลาเปิดธุรกิจกลางคืนจนถึงเวลา 04.00 น. เป็นสิ่งที่น่าทดลอง หากธุรกิจสามารถขายของแล้วมีรายได้มากขึ้น ภายใต้การควบคุมความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวได้อย่างดี จะมีประโยชน์และจะทำให้คนทำงานกลางคืน ที่ถูกปิดให้บริการไป 2 ปี กลับมามีรายได้ รวมถึงธุรกิจเกี่ยวข้อง จะกลับมีรายได้ด้วย ขณะที่มาตรการช้อปดีมีคืน ลดหย่อนภาษีวงเงินสูงสุด 40,000 บาทนั้น คาดว่า จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนอย่างน้อย 40,000-80,000 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าจะมีผู้เข้าร่วม 1 ล้านคนขึ้นไป และทุกคนจะใช้เงินเต็มจำนวน
“ช้อปดีมีคืนจะเป็นตัวช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 1/66 เพราะจะมีคนใช้มาตรการช่วงสิ้นปี 65 และลากยาวถึงปี 66 เป็นมาตรการที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.3-0.5% ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยโตได้ 3.5% อย่างไรก็ตาม ในช่วงรอยต่อระหว่างการส่งออกชะลอลง และการท่องเที่ยวกำลังฟื้น เป็นเรื่องสำคัญมากที่รัฐบาล ต้องเร่งให้การบริโภค การหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีเงินในกระเป๋า บรรเทาความเดือดร้อน รมถึงรัฐต้องช่วยดูแลราคาพลังงาน ที่สูงขึ้น และเติมรายได้ให้ประชาชน”