“พิพัฒน์” ยัน! ระงับคำขอเข้าประเทศชั่วคราวมีผลฉุดท่องเที่ยวไทย แต่ยังเข้าได้ผ่านภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์



นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะตลาดต่างชาติ ขณะนี้ขอรอดูผลหลังระงับการอนุมัติคำขอเข้าประเทศไทยผ่านระบบไทยแลนด์ พาส ในรูปแบบเทส แอนด์ โก ถึงวันที่ 4 มกราคม 2565 ก่อน แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวในไทยได้ผ่านภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้ตามปกติ ไม่มีการจำกัดให้เดินทางทั้งนั้น ซึ่งมีเงื่อนไขเพิ่มเติมคือ การตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผ่านวิธี RT-PCR 2 ครั้ง จากเดิมที่ต้องตรวจครั้งแรกด้วย RT-PCR และครั้งที่ 2 ให้ตรวจผ่านชุดตรวจเอทีเคได้

ในส่วนนี้รัฐบาลจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 ให้ แต่จะสมทบให้นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนประมาณ 2 แสนคน ที่ได้รับการอนุมัติในระบบไทยแลนด์ พาสแล้ว แต่ยังไม่เดินทางเข้ามา เน้นย้ำว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่นอกเหนือจากได้รับการอนุมัติในระบบชุดเดิม ยังสามารถเดินทางเข้ามาได้ผ่านภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แต่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง

“การปิดระบบไทยแลนด์ พาส หรือการหยุดพิจารณาคำขอเข้าประเทศของต่างชาติจนถึงวันที่ 4 มกราคม 2565 ส่งผลต่อการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาเที่ยวไทยแน่นอน แต่ผลกระทบจากมากน้อยและลากยาวเท่าใด ยังต้องประเมินสถานการณ์ก่อน เนื่องจากเป็นเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ ที่อยู่ระหว่างการประเมินความรุนแรง แต่ยังเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขไทย ส่วนการระบาดโควิดโอมิครอนจะส่งผลให้ปรับเป้าหมายการท่องเที่ยวหรือไม่ คงเร็วไปที่จะประเมิน แต่ความจริงเป้าหมายรายได้ของภาคการท่องเที่ยวไทย ตั้งไว้ภายใต้กรณีที่ไม่มีโอมิครอนระบาดอยู่แล้ว ทำให้หลังวันที่ 4 มกราคม 2565 จะต้องประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางและเป้าหมายของภาคท่องเที่ยวอีกครั้ง” นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การระบาดโควิด-19 ไม่ว่าจะสายพันธุ์ใหม่หรือสายพันธุ์เก่า ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด เพราะไม่ได้เป็นปัจจัยลบในประเทศเท่านั้น แต่เป็นปัจจัยลบที่เกิดจากประเทศต้นทางด้วย ทำให้มีผลต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่เชื่อว่านับจากวันนี้จนถึงวันที่ 4 มกราคม 2565 หากประเทศไทยสามารถควบคุมการระบาดโควิดได้ดี ไม่มีการกระจายของเชื้อในวงกว้าง หรือพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น จนสร้างความกังวลรุนแรงอีก โดยเราสามารถกลับไปเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้เข้ามาผ่านรูปแบบเทส แอนด์ โก ได้อีกครั้ง เชื่อว่าจะมีต่างชาติเดินทางเข้ามาจำนวนมากขึ้น เพราะเป็นช่วงฤดูหนาวและฤดูกาล (ไฮซีซั่น) ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่แล้ว โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างสหรัฐและยุโรป ซึ่งเชื่อว่าจะเห็นการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเชิงทำงานของต่างชาติมากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันสามารถใช้เทคโนโลยีในการทำงานในทุกที่ได้แล้ว และเห็นความนิยมเข้ามาท่องเที่ยวในไทยและทำงานไปด้วยเพิ่มมากขึ้น