- หวั่นถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้ทำธุรกิจด้วย
- เตรียมโละทิ้งนิติบุคคลกว่าหมื่นรายในกทม.
- หลังไม่ส่งงบดุล-ไม่ชำระบัญชี 3 ปีต่อเนื่อง
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมได้ออกประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียน จำนวน 10,810 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นนิติบุคคล ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร สำหรับนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด กรมได้ประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดให้ดำเนินการตรวจสอบเช่นกัน เพื่อให้มีแนวทางปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน โดยการปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบันครั้งนี้ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจที่ใช้บริการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล รวมถึงป้องกันความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ ที่แอบอ้างความน่าเชื่อถือจากการจดทะเบียนนิติบุคคล ไปหลอกลวงและแสวงหาประโยชน์โดยนิติบุคคลนั้นไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายจริง
สำหรับนิติบุคคลที่จะถูกขีดชื่อในครั้งนี้ กรมได้พิจารณาจากข้อสันนิษฐาน 2 กรณี คือ ไม่ส่งงบการเงินติดต่อกัน 3 ปี นับตั้งแต่ปี 60-62 ซึ่งเป็นเหตุให้เชื่อว่าไม่ได้ทำการค้าขาย หรือดำเนินธุรกิจแล้ว พบว่า มีจำนวน 5,795 ราย และกรณีจดทะเบียนเลิกแล้ว แต่ไม่มีตัวผู้ชำระบัญชีทำการอยู่ หรือไม่ได้จัดทำรายงานการชำระบัญชี หรือไม่ได้ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีต่อนายทะเบียนภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่เลิกห้างหุ้นส่วนบริษัท ซึ่งมีจำนวน 5,015 ราย
“หากพ้นกำหนดเวลา 90 วันนับแต่วันที่ออกประกาศ นิติบุคคลทั้งกว่าหมื่นรายนี้ จะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนและสิ้นสภาพนิติบุคคล เว้นแต่จะเอาหลักฐานข้อมูลมายืนยันกับกรมว่า ยังดำเนินธุรกิจอยู่ แต่แม้นิติบุคคลจะมีสถานะร้าง และสิ้นสภาพไปแล้ว แต่ความรับผิดชอบยังคงไม่ได้สิ้นสภาพตาม และอาจคืนสู่ทะเบียนได้โดยการร้องขอต่อศาลภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออก สำหรับประชาชนที่ต้องการตรวจสอบรายชื่อนิติบุคคล ที่เข้าข่ายจะถูกขีดชื่อ ดูได้ที่เว็บไซต์กรม www.dbd.go.th หัวข้อ คู่มือทำธุรกิจ เลือกจดทะเบียนธุรกิจ และประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน”
นายทศพล กล่าวต่อว่า ขอให้นิติบุคคลดำเนินการตามกฎหมาย โดยจัดทำงบการเงินประจำปี และยื่นต่อกรม รวมไปถึงจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นแม้สิ้นสภาพไปแล้ว ส่วนประชาชน หรือนักธุรกิจ หากจะทำธุรกิจกับคู่ค้า ต้องตรวจสอบข้อมูลหรือสถานะให้ดี เพื่อป้องกันความผิดพลาด โดยตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล ได้ที่เว็บไซต์กรมฯ www.dbd.go.th หรือ แอปพลิเคชั่น DBD Service
