- ลงนามเอ็มโอยูเปิดหลักสูตรติวเข้มเอสเอ็มอี-เจนซี
- พัฒนาผู้ประกอบการใช้เทคโนโลยีทำธุรกิจ
- รองรับเทรนด์การค้าโลกที่หันค้าขายออนไลน์มากขึ้น
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ความร่วมมือด้านวิชาการในการพัฒนาหลักสูตรด้านดิจิทัล เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคธุรกิจ ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (เอ็นอีเอ) และ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัดว่า ไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดในโลกในอนาคต โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลนำการค้า (Digital Technology led commerce) ผู้ประกอบการที่สามารถใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้รวดเร็ว อาจเป็นกุญแจสำคัญในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้น จึงต้องมีการพัฒนา และใช้เทคโนโลยีในการทำธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ
“ขอบคุณหัวเว่ยที่ให้เกียรติกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันจัดให้มีหลักสูตรให้ความรู้ด้านดิจิทัลเทคโนโลยีกับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) และผู้ที่สนใจในไทย เพื่อส่งเสริมให้ไทยสามารถมีตัวเลขทางการค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในระบบอีคอมเมิร์ซ ซึ่งสอดคล้องกับขณะนี้ที่โควิด-19 ระบาด ส่งผลให้จำเป็นต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ และผู้ใช้ให้เกิดประโยชน์ จะได้เปรียบในเวทีธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศ”
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับภาคธุรกิจในไทย เอสเอ็มอีมีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นธุรกิจฐานรากที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศในอนาคต ปัจจุบัน ไทยมีเอสเอ็มอีกว่า 2-3 ล้านราย กระทรวงพาณิชย์จะมุ่งพัฒนาเอสเอ็มอีให้สามารถนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้ประกอบธุรกิจ รวมถึงส่งเสริมให้เด็กรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคนที่กำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย หรือกำลังจะเรียนจบในระดับมหาวิทยาลัย ให้ก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจมากขึ้น ซึ่งจะต้องได้รับการพัฒนา หรือเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี เพื่อเตรียมตัวสำหรับการทำธุรกิจของตนเอง ตามโครงการปั้น CEO Gen Z และได้กำหนดเป้าหมายภายในหนึ่งปี จะปั้นให้ได้ไม่น้อยกว่า 12,000 ราย ส่วนเอสเอ็มอี ตั้งเป้าหมายพัฒนาให้ได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ราย
