
- ก.ย.63 อนุญาต 22 ราย ขนเงินมาลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท
- จ้างงานคนไทย 138 คน และถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ไทยไม่มี
- ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เนเธอร์แลนด์ หอบเงินลงทุนมากสุด
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า เดือนก.ย.63 คณะกรรมการ ได้อนุญาตให้คนต่างชาติ 22 ราย ประกอบธุรกิจในไทยภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542 เพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค.63 ที่อนุญาต 21 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ และเนเธอร์แลนด์ นำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 1,074 ล้านบาท เพิ่มขึ้น38% จากเดือนส.ค.63 ที่มีเงินลงทุน 781 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 138 คน รวมถึงถ่ายทอดเทคโนโลยีเฉพาะด้านโดยตรงจประเทศผู้เข้ามาลงทุน ส่วนในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปี 63 อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในไทยแล้ว 201 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 8,083 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาตในเดือนก.ย.63 ได้แก่ ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า 9 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และสิงคโปร์ มีเงินลงทุนจำนว 237 ล้านบาท , ธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุตสาหกรรม/ค้าส่ง 8 ราย เป็นนักลงทุนจากสิงคโปร์ สมาพันธรัฐสวิส และเนเธอร์แลนด์ มีเงินลงทุน 40 ล้านบาท , ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม 4 ราย จากญี่ปุ่น เยอรมนี หมู่เกาะเคย์แมน และสหรัฐฯ มีเงินลงทุน 787 ล้านบาท และธุรกิจบริการโดยเป็นคู่สัญญากับเอกชน 1 ราย จากสิงคโปร์ มีเงินลงทุน 10 ล้านบาท

“เดือน ก.ย.63 ต่างด้าว 3 ประเทศแรกที่ลงทุนในไทยมากสุด ได้แก่ ญี่ปุ่น 6 ราย เงินลงทุนรวม 345 ล้านบาท ตามด้วยสิงคโปร์ 4 ราย เงินลงทุน 48 ล้านบาท และเนเธอร์แลนด์ 3 ราย เงินลงทุน 12 ล้านบาท มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี ที่ไทยไม่มีความชำนาญ เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการออกแบบและวิเคราะห์โครงสร้างของเครื่องจักรหรือหุ่นยนต์ องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและการทำงานของระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น”










