- เปลี่ยนวิธีคิด สร้าง New Business Model ใหม่
- จัดกิจกรรม Genius Service Business 2020
- หวังต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิด-19
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจบริการมาอย่างต่อเนื่องเพราะเป็นธุรกิจที่ผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพ มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นในสายตาต่างชาติ โดยมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าดำเนินการส่งเสริมธุรกิจบริการโดยเฉพาะกลุ่มบริการเพื่อสุขภาพ หรือ Wellness ได้แก่สปา นวดเพื่อสุขภาพ และดูแลผู้สูงอายุ เนื่องจากธุรกิจกลุ่มนี้สามารถเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้ ซึ่งจะนำไปสู่การต่อยอดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ในปี 2563 จึงได้จัดกิจกรรมสร้างโอกาสทางการตลาดธุรกิจบริการสุขภาพ หรือ Genius Service Business 2020 ขึ้น ระหว่างเดือนพ.ค.–ก.ย. 2563 โดยกิจกรรมนี้จะช่วยสร้างโอกาสทางการตลาดให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ควบคู่กับการสร้างเครือข่ายทางการค้าให้เข้มแข็ง เกิดการเกื้อกูลกันระหว่างธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพและธุรกิจท่องเที่ยวรวมถึงผลักดันการสร้างธุรกิจบริการในรูปแบบใหม่ (New Business Model) เพราะหลังจากเกิดวิกฤติโรคโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลก ก็ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในรูปแบบสมัยใหม่ (New normal) เช่นกัน ดังนั้นหากสามารถปรับตัวได้รวดเร็วและมีแผนการตลาดที่ดีสอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันก็จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการจากทั่วประเทศที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรม Genius Service Business 2020 แล้วจำนวน 165 ราย ซึ่งจะเข้าสู่กระบวนการพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ อาทิ การพัฒนารูปแบบธุรกิจแนวใหม่, การสร้างแบรนด์, เทคนิคการ Pitching และการใช้สื่อ Social Media มาช่วยขยายช่องทางการตลาดจากนั้นจะเข้าสู่การเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจบริการสู่ภูมิภาค เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของธุรกิจบริการในแต่ละพื้นที่ ผ่านกิจกรรม Business Service Networking Roadshow ประกอบกับสร้างช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ และปรับภาพลักษณ์ธุรกิจเพื่อสร้างการจดจำแก่ผู้ใช้บริการซึ่งจะเชื่อมโยงจากธุรกิจแบบดั้งเดิมไปสู่New Business Model
ทั้งนี้ จะมีธุรกิจที่มีศักยภาพสูงสุดผ่านการคัดเลือกให้เป็นธุรกิจต้นแบบจำนวน 10 ราย และ จะได้รับการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักแก่สาธาณชนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเป็นตัวอย่างในการพัฒนาให้แก่ธุรกิจรายอื่นๆ ได้มีแนวทางใหม่ในการ
“จากนโยบายของรัฐบาลที่มีแนวทางในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนและการให้บริการของอาเซียน โดยตั้งเป้าหมายที่จะการสร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจบริการให้มากขึ้น และกระจายไปสู่ชุมชนทั่วประเทศ กิจกรรมฯ จะช่วยส่งผลดีต่อธุรกิจที่เข้าร่วมได้เกิดการเรียนรู้ทางลัดจากประสบการณ์ของธุรกิจบริการในแต่ละพื้นที่ที่มีความต้องการของผู้ใช้บริการแตกต่างกัน มุมมองที่เปลี่ยนไปตามแต่ละบริบท และสามารถนำมาปรับใช้ในการขยายธุรกิจจากพื้นที่เดิมไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ ทำให้ธุรกิจมีความมั่นคงและสร้างรายได้ให้กับประเทศต่อไป” นายวีรศักดิ์ กล่าว
