

- กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ดนำทัพPFG 4ทศวรรษพาเหรดแบรนด์“นอติอุส”พร้อมแบรนด์ใหม่
- โกยตลาดอาหารสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยงโต ขานรับเทรนด์โลกESG
- รุกขายงานบิ๊กอีเวนต์“THAIFEX – Anuga Asia 2023 ” 23 – 27พ.ค.66ที่ชาเลนเจอร์เมืองทองธานี
นายวิชัย กรณปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทพัทยา ฟู้ด หรือ PFG : Pataya Food Group เปิดเผยว่ากลุ่มบริษัท PFG ในฐานะผู้นำการผลิตและจัดจำหน่ายในเมืองไทยมายาวนานกว่า 44 ปี มีสินค้าวางขายครอบคลุมตลาดในและต่างประเทศ 5 หมวด สร้างเติบโตอย่างมั่นคงโดยมุ่งมั่น พัฒนา คุณภาพให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพดีที่สุดนำความสุขสู่ผู้บริโภค ปี 2566 ตั้งเป้ารายได้เติบโตไว้ประมาณ 8 % ตามแนวทางพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ควบคู่แผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจากปีฐาน2565 อีก 10 ปีข้างหน้าภายในปี 2575 จะลดลงให้ได้ 50 %
ในแต่ละทางกลุ่มบริษัทวางแผนจัดกิจกรรมสนับสนุนนโยบาย ESG :Environment (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) & Govermance (ธรรมาภิบาล) ทำธุรกิจภายใต้นโยบายปกป้องคุ้มครองสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล การใช้พลังงานสะอาด การใช้พลังงานทดแทน การจัดการบรรจุภัณฑ์โดยใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิล ทําโครงการ U-Turn ร่วมกับ PTT และGC ร่วมส่งเสริมคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของพนักงาน ต่อเนื่องถึงการดูแลชุมชนกับสังคมรอบข้าง ตามหลักการบรรษัทภิบาล และจรรยาบรรณทางธุรกิจ อย่างเคร่งครัด

เตรียมเข้าร่วมมหกรรมขายงานใหญ่ ” THAIFEX – Anuga Asia 2023 ” ระหว่างวันที่ 23 – 27 พฤษภาคม 2566 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคารชาเลนเตอร์ บูธ 3 หมายเลข 3-G59 โดยนำแบรนด์หลักไปนำเสนอคู่ค้าตลอดงาน ประกอบด้วย 1.นอติลุส 2.นอติลุสไลท์ 3.นอติลุสเอ็กซ์เทน 4.มงกุฎทะเล และแบรนด์ใหม่ๆ พร้อมเตรียมสินค้านวัตกรรมใหม่เตรียมเปิดตัวและเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าต่าง ๆ ทั่วโลก ที่จะเข้ามาเยี่ยมชมงาน
ปัจจุบันกลุ่มบริษัท พัทยา ฟู้ด มีสินค้าหลัก 5 หมวด ได้แก่ หมวดที่ 1 อาหารทะเล หมวดที่ / อาหารเพื่อสุขภาพรวม 8 แบรนด์ ได้แก่ นอติลุส/Nautilus นอติลุสไลท์/Nautilus Lite นอติลุสเอ็กซ์เท็น/Nautilus X-Ten มงกุฎทะเล/Mongkut Talay ซีคราวน์/SEACROWN หมวดที่ 3 ขนมขบเคี้ยว 1 แบรนด์ คือ ไททัน/TITAN หมวดที่ 4 อาหารพร้อมทาน ม่อนชะเมา/Mont Shamau หมวดที่ 5 อาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมี่ยม เช่น อาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์รีกาลอส (Regalos) อาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อสุขภาพแบรนด์เรมี่ (Remy)
โดยมีสัดส่วน การผลิตอาหาร 75 % และอาหารสัตว์เลี้ยง 25% วางขายในไทยและส่งออกตลาดต่างประเทศทั่วโลกปี 2565 ทำยอดขายกว่า 8,000 ล้านบาท ตลอดระยะ 5 ปีที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ยกว่า 11% เฉพาะ 2-3 ปีที่ผ่านมาเดินหน้าใช้เงินลงทุนกว่า 200 ล้านบาท พัฒนาโครงสร้างเพิ่มพื้นที่การผลิต และจัดเก็บสินค้า รวมทั้งระบบจัดเก็บคลังสินค้าอัตโนมัติที่โรงงานผลิตที่มหาชัย สมุทรสาคร สามารถเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นอีก 25% นอกจากสินค้าแบรนด์นอติลุสที่ได้รับความนิยมและรู้จักกันอย่างกว้างขวางแล้ว ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาทางบริษัทเปิดตัวสินค้าแบรนด์ใหม่ ๆ อีก 3 แบรนด์ คือ แบรนด์ ม่อนชะเมา นอติลุส เอ็กซ์เท็น และ เรมี่ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค มุ่งทำธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นายวิชัยกล่าวว่า เมื่อต้นปี 2566 ได้เปิดตัว “เรมี่” แบรนด์สินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง (wellness pet food) โดยร่วมทุนกับ รพ สัตว์ทองหล่อ วางคอนเซ็ปเป็นผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงตั้งใจส่งมอบสุขภาพที่ดีให้สมาชิกแสนรัก พัฒนาสูตรโดยทีมนักโภชนาการสัตวแพทย์ ชูจุดแข็ง “สุขภาพดี…ที่ให้ด้วยรัก” ลุยตลาดเดือนเมษายน 2566 ด้วยขนมแคลอรี่ต่ำและอาหารสูตรเสริมสุขภาพของน้องแมว จากนั้นเดือนมิถุนายนนี้จะนำเสนออาหารน้องหมา มุ่งสู่เป็นแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก
สถานการณ์อาหารสัตว์เลี้ยงเมื่อช่วงปี 2560 บริษัททำแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง แบรนด์แรกคือ “รีกาลอส” เป็นภาษาสเปนหมายถึง “ของขวัญ” แล้วนำมาใช้เป็นแนวคิดพัฒนาสินค้าการจะมอบของขวัญสุดพิเศษให้น้องแมวสมาชิกในครอบครัวแสนรักของคนจำนวนมาก ตื่นเต้น และ ร้องว้าว!! ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติคุณภาพสูงในระดับเดียวกับอาหารคน ไม่ใส่สารปรุงแต่งไม่เติมเกลือ และวัตถุกันเสีย สินค้ามีหลายประเภททั้ง อาหารเปียก ขนมขบเคี้ยวของแมว มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมตั้งแต่ลูกแมวแรกเกิดไปจนถึงแมวสูงวัย
ขณะที่แบรนด์ “ม่อนชะเมา” มุ่งมั่นสรรหาของดีจากจังหวัดต่าง ๆ กลุ่มผัก ผลไม้ มาช่วยทำตลาดผ่านบริษัทในเครือ เน้นสิน้าออร์แกนิค ผัก–ผลไม้ปลอดภัย ปลูกในดินด้วยวิถีธรรมชาติ อาหารพร้อมทาน ขนม ที่อร่อยและสุขภาพดีแบบ “benecious food” ปัจจุบันทางบริษัทเริ่มวางขายทุเรียนในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และเปิดร้าน “ม่อนชะเมา” ตามคอนเซ็ปต์ แกร๊บแอนด์โก บริการที่ชั้นล่างตึกสยามสเคป อนาคตมีแผนจะเพิ่มสาขาบริการด้วย
ส่วนแบรนด์ “นอติลุส เอ็กซ์เทน” เป็นอาหารคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม พร้อม “Extend Happiness” สะดวกพร้อมรับประทาน มีสินค้ากลุ่มแรกคือ มัลติเกรนโอ๊ตมีล ตอบสนองเทรนด์ “ซุปเปอร์ฟู้ด”อาหารสุขภาพที่แพร่หลายทั่วโลกอุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ใส่ผงชูรส และไม่ใส่วัตถุกันเสีย เป็นอีกทางเลือกดูแลผู้บริโภคทุกช่วงวัยที่เน้นการกินเพื่อสุขภาพ

แบรนด์ “ไททัน” เป็นขนมขบเคี้ยวเปิดตัวด้วย หนังปลาแซลมอนทอดกรอบ นำเสนอความแตกต่างจากทั่วไปคือ นำหนังปลาแซลมอนธรรมชาติที่ไม่ใช่การเลี้ยงในฟาร์ม จึงอุดมด้วยโปรตีน ทอดด้วยน้ำมันเพื่อสุขภาพอย่างน้ำมันรำข้าว จึงมีโอเมก้า 3, 6, 9 สูงกว่าสินค้าปกติในตลาดถึง 10 เท่า ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ปี 2566 จะวางขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ เช่น ท็อปส์ โลตัส และอื่น
สำหรับการเติบโตของ กลุ่มบริษัท พัทยา ฟู้ด ตลอด 4 ทศวรรษ 44 ปี มีดังนี้ ทศวรรษ 1 ช่วง 10 ปีแรก ลงทุนพัฒนาระบบการผลิตจนได้มาตราฐานสากล ISO ด้วยคติประจำใจชาวพัทยาฟู้ดคือ “Passion for Quality” พร้อมกับเริ่มผลิตสินค้าของตนเองภายใต้แบรนด์ “นอติลุส”
ทศวรรษที่ 2 ช่วงปีที่ 20 ลงทุนสร้างแบรนด์ทูน่า ระยะแรกทำการตลาดในไทยขยายเครือข่ายผ่านพันธมิตรส่งออกต่างประเทศไปยัง ฝรั่งเศส สาธารณรัฐประชาชนจีน เวียดนาม และอื่น ๆ ทศวรรษนี้ต้องพบกับวิกฤตเรื่องวัตถุดิบและแรงงานหายากขึ้นจึงตัดสินใจขยายฐานการผลิตไปเวียดนาม ผนวกกับบางปีเกิดสภาวะอากาศผันผวนทำให้ราคาวัตถุดิบหลักอย่างปลาทูน่าพุ่งสูงขึ้น กระทบต้นทุนการผลิต และตลาด จึงตัดสินใจปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจหลายอย่างตั้งแต่ขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้านอกเหนือจากอาหารทะเลกระป๋อง พัฒนาแบรนด์ของตัวเอง เพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ จนสามารถสร้างการเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว มาจนถึงทศวรรษที่ 3-4 ปีที่ 30 และ 40 แห่งความสำเร็จที่ปรากฎอยู่จนถึงทุกวันนี้
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน#gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen