

พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวภายหลังการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพนัดแรก หลังมีผบ.เหล่าทัพ-ผบ.ตร.ชุดใหม่ ซึ่งเป็นเตรียมทหารรุ่น 22 ทั้งหมด ยกเว้น ผบ.ทหารสูงสุด ที่เป็นเตรียมทหารรุ่น 21 โดยทั้งหมดจะเกษียณฯ ก.ย.2566 ถึงแนวโน้มการเมืองหลังจบการประชุมเอเปก ที่รัฐบาลอาจยุบสภา แล้วมีการเลือกตั้งใหม่ ในจุดยืนและนโยบายของกองทัพว่า ความชัดเจนของกองทัพปฎิบัติหน้าที่ตามภารกิจที่กำหนดไว้ ความชัดเจนมีกำหนดอยู่ใน พ.ร.บ.การจัดส่วนราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 ดังนั้นหน่วยงานทหารทั้งกองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพ
โดยก็ยึดถือตามที่กระทรวงกลาโหมมีอำนาจหน้าที่ที่บัญญัติไว้ ซึ่งก็ออกมาเป็นพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการของแต่ละเหล่าทัพ อันนั้นคือหน้าที่ที่เรามี โดยไม่ต้องมีใครสั่ง เราเป็นเครื่องมือหน่วยงานของรัฐบาลที่เป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารประเทศ เราก็ปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายของกระทรวงกลาโหมและรัฐบาล เพราะฉะนั้นเมื่อถามถึงเรื่องการเมือง ก็เป็นเรื่องการบริหารประเทศของฝ่ายการเมือง ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา และจัดตั้งรัฐบาลในด้านการเมือง ซึ่งเราก็ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลที่มาจากการเมือง
“ทหารเราก็มีความเกี่ยวพันกับการเมือง เพราะเราเป็นองค์กรเหมือนกับส่วนราชการอื่น แต่เราไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองการดำเนินการทางการเมืองของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่าจะดำเนินการอย่างไร”
เมื่อถามว่าวันนี้ ผบ.เหล่าทัพ อยู่กันครบ สามารถให้ความสบายใจในปีหน้าได้หรือไม่ หากมีการเปลี่ยนขั้วการเมืองและมีการชุมนุม บทบาทของกองทัพเป็นอย่างไร พล.อ.เฉลิมพล กล่าวว่า ในส่วนของทหารมีบทบาทตามขอบเขตอยู่แล้ว ประเทศเราพัฒนามาไกลมากแล้ว ก็ต้องให้ประชาชนช่วยกันดูเรื่องการดำเนินการทางการเมืองต่างๆ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของประเทศเป็นไปในแนวทางทางการเมือง ซึ่งตนเชื่อว่าความคาดหวังของทุกคน เราต้องการเห็นพัฒนาการของประเทศเรา เป็นไปในรูปแบบภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราต้องการเห็นอย่างนั้น ทหารก็ต้องการเห็นอย่างนั้น ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม หรือในทางการเมืองต่างๆจะเป็นอย่างไร ทหารก็ทำหน้าที่ของเราเท่านั้นเอง ก็ขอให้มีความเชื่อมั่นได้
เมื่อถามย้ำว่า ให้ความเชื่อมั่นได้หรือไม่ จะไม่มีการปฏิวัติ พล.อ.เฉลิมพล พยักหน้าและยิ้ม พร้อมกล่าวว่า “ครับผม”
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้ถาม พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่า ทหารจะขยับหรือไม่ผบ.ทบ. เอานิ้วชี้ไปที่ศีรษะพร้อมบอกว่า “ในหัวมีแต่ประชาชน ช่วยเหลือประชาชน ตอนนี้คิดถึงประชาชนก่อน”
นอกจากนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำว่า จะไปให้กำลังใจกำลังพลและเจ้าหน้าที่ตอนนี้ทหารลงไปดูแลช่วยเหลือประชาชนพื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยา ส่วนกองทัพเรือดูที่ฝั่งธนบุรี เชื่อมั่นว่าความสามัคคีจะทำให้รอดพ้นทุกอย่าง