

วันที่ 9 มี.ค.2564 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า จากการลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำเค็มรุกแม่น้ำเจ้าพระยาและบางปะกง รวมถึงวางแผนควบคุมน้ำเค็ม และเฝ้าระวังช่วงน้ำทะเลหนุนสูงในเดือนมีนาคม – เมษายน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคการใช้น้ำอื่น ปัญหาที่น่ากังวลคือน้ำต้นทุนในเขื่อนหลักมีน้อย ต้องใช้อย่างระมัดระวังให้เพียงพอตลอดฤดูแล้ง เพราะส่วนหนึ่งต้องนำมารักษาระบบนิเวศนผลักดันน้ำเค็ม
ทั้งนี้ ได้มอบให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งรัดโครงการนำน้ำมาเติมเขื่อนภูมิพล พร้อมทั้งให้ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยควบคุมการปลูกพืชให้เป็นไปตามแผน และสร้างการรับรู้ให้เกิดความร่วมมือในการปรับเปลี่ยนการปลูกพืช ให้เหมาะสมกับช่วงฤดูแล้ง พร้อมกำหนดมาตรการชดเชยเยียวยาให้แก่เกษตรกรเป็นกรณีไป
“เพื่อให้การแก้ปัญหามีความยั่งยืนมากขึ้นได้มอบให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นแกนกลางประสานหน่วยงานเร่งศึกษา สำรวจ และสร้างอาคารควบคุมการเปิด-ปิดปากแม่น้ำ ทั้ง 4 สาย คือ เจ้าพระยา บางปะกง ท่าจีน และแม่กลอง โดยจัดลำดับความสำคัญให้ดำเนินการโดยเร็ว ควบคู่กับการระดมผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานศึกษาวางแผนเพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำสายหลักสมดุลทั้งระบบ”