

- ชี้บำนาญพิเศษเหมือน “มรดก”
- เบี้ยคนชราเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ควรได้รับ
นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า จากกรณีชาวบ้านหลายรายถูกเรียกคืนเงิน “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” หลังกรมบัญชีกลางตรวจสอบพบว่ารับสิทธิ์ซ้ำซ้อนกับการรับเงินบำนาญพิเศษนั้น เรื่องนี้กระทรวงมหาดไทยกำลังดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบเพื่อให้สามารถจ่ายเงินทั้งสองกรณีได้ โดยไม่ขัดกับข้อระเบียบของกระทรวงมหาดไทย เพราะกรมบัญชีกลางไม่มีอำนาจในส่วนนี้
ทั้งนี้หากกระทรวงมหาดไทยแก้ไขกฎระเบียบเรียบร้อยและส่งเรื่องมาที่กรมบัญชีกลางแล้ว ทางกรมฯ ในฐานะที่รับผิดชอบการจ่ายเงินก็พร้อมจ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุตามสิทธิที่ควรได้รับทั้งสองกรณี
“ตอนนี้ผมยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยในเรื่องนี้ แต่ถ้ามีหนังสือแจ้งมากรมฯ ก็พร้อมจะจ่ายเงินให้ตามนั้น ส่วนตัวผมมองว่าผู้ที่ได้รับเงินเบี้ยคนชรา เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่เขาควรได้รับ ส่วนสิทธิที่เกิดขึ้นจากบุคคลอื่น เช่น บุตรรับราชการและเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ เป็นต้น ลักษณะนี้เปรียบเสมือนเป็น “มรดก” พ่อแม่ผู้เสียชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ควรได้รับเงินบำนาญพิเศษในส่วนนี้ด้วยควบคู่กับเงินเบี้ยสูงอายุ ไม่ควรไปตัดสิทธิ์เขา ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดกรณีกรมบัญชีกลางทำหนังสือให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ไปไล่เบี้ยเรียกคืนเงินจากผู้สูงอายุย้อนหลังจำนวนมากนั้น เนื่องจากกระทรวงมหาดไทยกับกรมบัญชีกลางเพิ่งจะมีการเชื่อมโยงอย่างสมบูรณ์เมื่อปี 2563 ดังนั้นจึงพบข้อมูลว่า มีการรับเงิน 2 ทาง คือ ทั้งเบี้ยยังชีพคนชราและเงินบำนาญ ซึ่งตามกฎระเบียบของกระทรวงมหาดไทยไม่สามารถรับเงินซ้ำซ้อนกันได้