

- เหตุงบที่พาณิชย์เตรียมไว้จ่ายส่วนต่างไม่เพียงพอ
- หลังราคาข้าวร่วงหนักและครม.อนุมัติให้เพียง 1.8 หมื่นล้านบาท
- พาณิชย์วิ่งวุ่น เล็งเสนอครม.ไฟเขียวงบเพิ่มเป็น 4.8 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้ ชาวนาจำนวนนับล้านคนได้รับเงินชดเชยส่วนต่างจากโครงการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวเปลือก ฤดูกาลผลิตปี 63/64 ล่าช้า โดยเฉพาะชาวนาที่ลงทะเบียน และมีสิทธิ์ได้รับเงินส่วนต่างงวดที่ 2 กว่า 600,000 คน และงวดที่ 3 อีกกว่า 1.5 ล้านคนที่ยังไม่รู้ว่าจะได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลเมื่อไร เนื่องจากงบประมาณที่กระทรวงพาณิชย์ตรียมไว้จ่ายมีไม่เพียงพอ หลังจากปีนี้ราคาข้าวเปลือกตกต่ำอย่างหนัก และต้องจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเปลือกครบทั้ง 5 ชนิด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณสำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเปลือก 5 ชนิดเพียง 18,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่ใช้ในโครงการประกันรายได้ปีที่ผ่านมา จากที่กระทรวงพาณิชย์ขอไว้ทั้งสิ้นกว่า 23,000 ล้านบาท โดยสามารถจ่ายให้ชาวนาได้เพียงงวดที่ 1 และ 2 ประมาณ 1.4 ล้านรายเท่านั้น จากชาวนาที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรทั้งหมด 4.5 ล้านราย
ส่วนปัจจุบัน จะต้องจ่ายชดเชยงวดที่ 3 ให้กับผู้ปลูกข้าวเปลือก ที่ลงทะเบียนและระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 16 – 22 พ.ย.63 จำนวน 5 ชนิด คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี และข้าวเปลือกเหนียว แต่ชาวนายังไม่ได้รับเงินส่วนต่างรายได้เลย ดังนั้น จะต้องรอให้จะต้องรอให้กระทรวงพาณิชย์ เสนอครม.พิจารณาอนุมัติเงินงบประมาณก้อนใหม่ก่อน ถึงจะได้รับเงินชดเชยได้ โดยคาดว่า กระทรวงพาณิชย์จะเสนอเพิ่มวงเงินประกันรายได้ข้าวเป็น 48,000 ล้านบาทในการประชุมครม.ในสัปดาห์หน้า
ด้านนายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ยืนยันว่า ธ.ก.ส มีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับรองรับการดำเนินโครงการประกันรายได้พืชเศรษฐกิจทั้ง 5 ชนิด และไม่ได้ขาดสภาพคล่องตามที่เป็นข่าว แต่สาเหตุที่จ่ายเงินล่าช้า เนื่องจากต้องรอกระทรวงพาณิชย์ขออนุมัติขยายวงเงินจาก ครม.ก่อน เพราะธ.ก.ส.ไม่มีอำนาจจะจ่ายเงินออกไปก่อนที่จะได้รับอนุมัติได้ เมื่อ ครม. ให้ความเห็นชอบแล้ว ธ.ก.ส. จะเร่งโอนเงินทันที
“ราคาข้าวเปลือกแต่ละชนิดในปีนี้ลดต่ำกว่าปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก ส่งผลให้เงินชดเชยส่วนต่าง ที่ ครม. อนุมัติไว้ไม่เพียงพอสำหรับการจ่ายให้แก่เกษตรกรในงวดที่ 2 ได้ทั้งหมด แต่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ธ.ก.ส. ได้หารือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์อย่างใกล้ชิด เพื่อหาทางแก้ไขแล้ว”