ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. หลังจากกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้พยายามพังประตูฝั่งคณะนิติศาตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยก่อนเปิดประตู ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมคนหนึ่งพยายามปีนประตู กระทั่งมีกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยกันคนหนึ่งบอกว่า ให้ลงมาพร้อมกับตะโกนด้วยว่า อย่าทำลายนักศึกษา อย่าทำร้ายมวลชน จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ได้ยอมลงมาจากประตู
จากนั้นเหตุการณ์ก็นำไปสู่การที่เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูเล็ก ฝั่งศาลพระภูมิ ข้างหอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ จากนั้น นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ระยอง ได้นำกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนแรกทยอยเดินเข้ามายังบริเวณสนามหญ้า ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้สำเร็จ จากนั้นมีการวางแผนต่อไปว่า หากมวลชนเข้ามาเป็นจำนวนมากจนเต็มพื้นที่ ก็จะเคลื่อนขบวนออกไปยึดสนามหลวงต่อไป
ทั้งนี้ต่อเนื่องมาถึึงช่วงเวลา 12.20 น. กลุ่มชุมนุมของ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่ม ได้นำรถขยายเสียงเข้ามาจอดบริเวณสนามหญ้า ซึ่งได้ตั้งใจปักหลักใช้เป็นเวทีในการปราศรัย โดยมีกลุ่มนักศึกษาคล้องแขนกันล้อมรถ ขยายเสียง
ขณะที่บรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ตามตึกบางส่วน และไม่ได้มีการขัดขวางการเข้ามาชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามได้มีกลุ่มมวลชนทยอยเดินทางเข้ามาภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กันอย่างต่อเนื่อง โดยการเข้ามากันของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ไม่ได้บุกเข้าไปในส่วนของตัวอาคารของมหาวิทยาลัยฯ
ด้านนายภานุพงศ์ หรือไมค์ระยอง แกนนำนักศึกษา ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพื้นที่มหาวิทยาลัยฯ ได้สำเร็จว่า ที่นี่เปรียบเหมือนอนุสรณ์การต่อสู้ มาตั้งแต่ปี 2475 อย่าให้เผด็จการต้องลบล้างประวัติศาสตร์ของประเทศไทย การที่เราเข้ามาใช้พื้นที่ในวันนี้ เราประกาศไว้แล้วว่าจะใช้พื้นที่อย่างสงบ แต่เหตุใดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงไม่อนุญาตให้เข้าใช้พื้นที่ ท่านมีอำนาจใดที่จะห้ามไม่ให้นักศึกษาเข้าใช้ และทำไมเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบกลับเข้ามาใช้พื้นที่ได้
“วันนี้ที่พวกเรามาคือต้องการมาไล่เผด็จการ การกระทำในครั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะเกิดคดีความหรือไม่ ตนจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง เพราะถือว่าตนยอมเสียสละและติดคุกเสียอิสรภาพ เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา การต่อสู้ครั้งนี้ต้องไม่สูญเปล่า” นายภานุพงศ์ กล่าว
