

- เผยรัฐบาลให้งบมาบริหารเรื่องน้ำทุกปี หวังไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในการใช้น้ำ
- ชี้รัฐมีการจัดตั้งกรรมการ 22 ลุ่มน้ำ ในการกำกับดูแลเรื่องน้ำ มีคณะกรรมการทุกจังหวัด ลั่นทำมา 3 ปีแล้ว
- สั่งเร่งจัดการปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำ เข้าในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี
- เผยสัปดาห์หน้า อนุมัติงบประมาณ 100 กว่าล้าน เพื่อศึกษาการทำประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม
วันนี้ (1 ก.ย. 2565) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจราชการที่สถานีผลิตน้ำประปา จ.ฉะเชิงเทรา โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับตนและคณะในวันนี้ ได้มาเยี่ยมชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา ยินดีเป็นอย่างยิ่ง และขอบคุณเจ้าหน้าที่ได้นำเสนอเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งได้มีการเตรียมการในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อการเตรียมการเรื่องน้ำดิบที่จะใช้ถึงปี 2580 โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำเค็มจะต้องป้องกันในจุดพื้นที่บางปะกง เราไม่สามารถเอาน้ำดิบมาไล่ระบบนิเวศน์ได้ตลอด ขอฝากพวกเราช่วยกันดู
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้งบประมาณเกี่ยวกับเรื่องน้ำมาทุกปี โดยกรมชลประทาน ได้มีการเตรียมการต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในการใช้น้ำ ดังนั้น การประปาต้องเตรียมการสำรองน้ำดิบไว้ผลิตให้ได้ถึงปี 2580 เพื่อความต้องการของประชาชน ถ้าประชาชนไม่มีน้ำก็จะด่ารัฐบาล ประชาชนมีอย่างเดียวคือ ต้องด่ารัฐบาล แต่ต้องขอความเห็นใจให้ข้าราชการทุกคนที่พยายามทำงานให้พวกเราได้อยู่ดีกินดีขึ้น เพื่อความเป็นอยู่ที่ดี
ทั้งนี้ ประชาชนเกรงว่าฝนตกปีนี้ จะทำให้น้ำท่วมเหมือนปี 2554 รับรองเลยว่าน้ำจะไม่ท่วมอย่างปี 2554 แน่นอนโดยทั้งกรมชลประทาน สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันกระจายน้ำ มีกรรมการ 22 ลุ่มน้ำในการกำกับดูแล มีคณะกรรมการน้ำทุกจังหวัด ซึ่งทำมา 3 ปีแล้ว ไม่มีแล้งเลย
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติประสานบูรณาการขับเคลื่อนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ป้องกันแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนครอบคลุมถึงระยะยาว โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาน้ำเค็มที่จะรุกล้ำเข้าในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งในสัปดาห์หน้า จะอนุมัติงบประมาณ 100 กว่าล้านบาท เพื่อศึกษาการทำประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม โดยกรมชลประทานต้องหาแหล่งน้ำต้นทุน เร่งก่อสร้าง เร่งแหล่งน้ำที่ได้รับงบประมาณให้แล้วเสร็จ สามารถบริหารจัดการน้ำได้มีประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะการประสานงานกับกระทรวงทรัพย์ฯ และการอนุมัติพื้นที่อ่างเก็บน้ำวังโตนด ถ้าได้มาจะทำให้กระจายน้ำได้ดี สามารถเก็บน้ำไว้ใช้ช่วงฤดูแล้งปลูกพืชไร่ได้ ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมากขึ้น การประปาส่วนภูมิภาค ต้องวางแผนการใช้น้ำให้ครอบคลุมการใช้น้ำอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ พร้อมสำรองน้ำไว้ใช้ การประปาทุกแห่งต้องมีแหล่งน้ำสำรอง ถ้าไม่มีจะใช้น้ำดิบจากธรรมชาติอย่างเดียวไม่ได้
“จากนี้เราจะต้องทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นประชาชน หรือข้าราชการทุกคน ข้าราชการเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของประชาชน อย่าคิดว่าเราเป็นนายของประชาชน เรากินเงินเดือนภาษีราษฎร ต้องทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ” พล.อ.ประวิตร กล่าว