น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเปยว่า ในวันที่ 5 มี.ค.นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข จะเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมกัญชากัญชง 360° เพื่อประชาชน” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 มี.ค. 2564 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ทั้งนี้สำหรับงานดังกล่าว เป็นงานด้านการให้ความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับกัญชาและกัญชง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพื่อเสริมองค์ความรู้ให้กับประชาชน ได้นำไปต่อยอด อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ ทั้งด้านการแพทย์ และด้านเศรษฐกิจอย่างมหาศาล
ทั้งนี้การผลักดันกัญชาทางการแพทย์ และกัญชงเพื่อเศรษฐกิจ เป็นนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยโดยการเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้แก่เกษตรกร และผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ มหกรรมกัญชากัญชง 360° เพื่อประชาชน ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพื่อสร้างเม็ดเงินให้กระจายลงไปยังพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียง พร้อมสร้างเครือข่าย ในการต่อยอดธุรกิจ ให้กับผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า งานมหกรรมกัญชากัญชง 360° เพื่อประชาชน จัดขึ้นภายใต้แนวคิด การแพทย์ก้าวหน้าด้วยกัญชาทางการแพทย์ เศรษฐกิจไทยสู่เศรษฐกิจโลก ด้วยกัญชงพืชเศรษฐกิจแห่งอนาคต
พร้อมกันนี้ ยังมีมีกิจกรรมเสวนาจากสุดยอดวิทยากร อาทิ เสวนาหัวข้อ “จากใต้ดินสู่บนดิน” โดย อาจารย์เดชา ศิริภัทร จากมูลนิธิข้าวขวัญ “ประโยชน์เเละการใช้สารสกัดกัญชาทางการเเพทย์” โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข “กฎหมายยาเสพติดกับอนาคตประเทศไทย” โดย ดร.ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน เป็นต้น
สำหรับนโยบายกัญชาเสรีเพื่อการแพทย์ของรัฐบาลนั้น ปัจจุบัน มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก โดยมีการประกาศปลดล็อกยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ในส่วนของกัญชาและกัญชง ให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยไม่จัดเป็นยาเสพติดแล้ว ยกเว้นช่อดอกและเมล็ดกัญชา มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.2563
ขณะที่ ประชาชนทุกครัวเรือน มีสิทธิปลูกกัญชาได้ เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทั้งการปลูก สกัด และผลิต จะต้องขออนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ทั้งนี้ปัจจุบัน พบว่า ประชาชนให้ความสนใจ เกี่ยวกับการสร้างมูลค่าเพิ่ม จากกัญชาและกัญชง จำนวนมาก ทั้งนี้กัญชาและกัญชง ยังกลายเป็นกระแสความสนใจในการนำไปต่อยอดธุรกิจของคนรุ่นใหม่
นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุข จึงได้จัดกิจกรรมเสริมองค์ความรู้ให้กับประชาชนที่สนใจอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่ากัญชาและกัญชง จะเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้เป็นอย่างดีในอนาคต
