นักลงทุนช้อนซื้อเก็งผลประกอบการ ดาวโจนส์ปิดตลาดบวก187จุด



  • นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี หวังผลประกอบการดีกว่าที่คาด
  • ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาปิดแดนบวกหลังร่วงลงติดต่อกัน5วัน
  • จับตาความพยายามป้องกันการระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 28ม.ค.ที่ 28,722.85 จุด เพิ่มขึ้น 187.05 จุด หรือ +0.66% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,276.24 จุด เพิ่มขึ้น 32.61 จุด หรือ +1.01% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,269.68 จุด เพิ่มขึ้น 130.37 จุด หรือ +1.43%

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงช้อนซื้อเพื้อเก็งกำไรผลประกอบการที่จะประกาศออกมา โดขเฉพาะหุ้นแอปเปิล หลังจากที่ปิดในแดนลบติดต่อกัน 5 วันทำการ อจากความกังวลที่ว่าการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นแอปเปิล ปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.83% โดยคาดว่าบริษัทแอปเปิล อิงค์จะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสออกมาดีกว่าที่คาด

ขณะที่หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) พุ่งขึ้น 2.58% หุ้นเฟซบุ๊ก บวก 1.3% หุ้นอเมซอนดอทคอม เพิ่มขึ้น 1.36% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดีดขึ้น 1.6% หุ้นอัลฟาเบท บวก 1.3% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.9% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ บวก 0.6% หุ้นอินเทล พุ่งขึ้น 2.47% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 3.2%

หุ้นกลุ่มธนาคารได้รับแรงซื้อเช่นกัน หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐทั้งประเภทอายุ 10 ปีและ 30 ปีดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 1.92% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 1.71% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก บวก 0.57% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 1.82% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 0.69% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 1.19%

หุ้นซีร็อกซ์ โฮลดิ้งส์ คอร์ป ทะยานขึ้น 4.9% ขณะที่หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ปรับตัวขึ้น 1.2% หลังจากทั้ง 2 บริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรรายไตรมาสที่สูงกว่าคาด

อย่างไรก็ตาม หุ้นที่เกี่ยวกับสายการบินและการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว โดยนักลงทุนยังคงมีความกังวล และติดตามความพยายามในการควบคุมการระบาดแลัหาวัคซีนเพื่อหยุดยั้งไวรัสโคโรนาต่อไป

ตลาดหุ้นยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 131.6 ในเดือนม.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 128.0 จากระดับ 126.5 ในเดือนธ.ค.

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนธ.ค. หลังจากดิ่งลง 3.1% ในเดือนพ.ย. ขณะที่ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนต.ค.

นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 29 ม.ค.ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 30 ม.ค.ตามเวลาไทย ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากที่เฟดส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ในการคงอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปีนี้