

- หนุนลูกหนี้ที่มีความสามารถชำระหนี้
- ลุ้นต่ออายุประกันราคาพืชเศรษฐกิจ
นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยการพักหนี้ชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ยเงินกู้ที่ถึงกำหนดชำระตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563-มี.ค.2564 เป็นเวลา 1 ปี โดยอัตโนมัติ และยังคงชั้นหนี้เดิมของลูกค้าก่อนเข้าโครงการฯ นั้น มีลูกค้าเข้าร่วมทั้งหมด 3.8 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้ 1.4 ล้านล้านบาท ส่วนเมื่อถึงกำหนดเวลาพักชำระจะมีการขยายระยะเวลาหรือไม่นั้น ยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณา
“ธ.ก.ส.จะต้องเขาไปตรวจสุขภาพลูกหนี้ทุกราย หากรายใดมีปัญหาก็ต้องไปช่วยปรับโครงสร้าง จัดตารางชำระหนี้ให้ลูกหนี้ใหม่ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถเดินต่อไปได้ ส่วนเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)นั้น ปัจจุบันอยู่ที่ 4% เท่านั้น”
นอกจากนี้จะเปิดตัวโครงการ “ชำระดีมีคืน” สำหรับลูกค้าธ.ก.ส.ที่ไม่ต้องการพักชำระหนี้ช่วงเดือนพ.ย.นี้ ในรูปแบบการคืนดอกเบี้ยให้ทันทีเมื่อมีการชำระหนี้ โดยรายละเอียดต่างๆ ได้จัดทำไว้แล้วและเตรียมเสนอบอร์ดคณะกรรมการธ.ก.ส.อนุมัติหลักการในวันที่ 29 ต.ค.นี้
“โครงการนี้มีขึ้นเพื่อให้ลูกหนี้ที่พอมีกำลังชำระช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.63 กลับมาชำระเงินที่พักหนี้ไว้แบบมีสิทธิประโยชน์ให้ รวมทั้งยังเป็นการรักษาลูกค้าชั้นดีของธนาคารด้วย”
ส่วนในปีนี้ ธ.ก.ส.ตั้งเป้าหมายสินเชื่อไว้ที่ 105,500 ล้านบาท หรือคาดว่าจะขยายตัวได้ 9% จากปีที่ผ่าน ซึ่งเป้าหมายนี้ตั้งไว้ในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ มาก ดังนั้นธ.ก.ส.อาจจะปรับอัตราขยายตัวในปีนี้ให้ลดลงมาอีก
ส่วนการประกันราคาพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ ข้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำประหลัง และอ้อย เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา นั้น ขณะนี้ใกล้จะหมดระยะเวลาช่วยเหลือในเดือนต.ค.-พ.ย.นี้แล้ว ดังนั้นธ.ก.ส.จะนำเรื่องนี้ไปเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เพื่อพิจารณาว่าจะต่ออายุโครงการออกไปหรือไม่ หรือจะกำหนดเกณฑ์ใหม่ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
สำหรับในฤดูกาลผลิตปี 2562/63 มีการตั้งงบประมาณไว้สำหรับการประกันรายได้ ดังนี้ 1. ข้าว งบประมาณไว้ 29,040 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายจริง 19,400 ล้านบาท หรือคิดเป็น 92.69% 2.ยางพารา งบประมาณไว้ 23,400 ล้านบาท เบิกจ่ายจริง 23,286 ล้านบาท คิดเป็น 92.1%
3.ปาล์มน้ำมัน งบประมาณ 13,000 ล้านบาท เบิกจ่ายจริง 5,104 ล้านบาท คิดเป็น 39.26% 4.มันสำประหลัง งบประมาณ 9,890 ล้านบาท เบิกจ่ายจริง 6,836 ล้านบาท คิดเป็น 69.13% และ5.ข้าวโพด งบประมาณ 1,552 ล้านบาท เบิกจ่ายจริง 606 ล้านบาท คิดเป็น 39.05%