ธ.ก.ส.ชูโมเดลทำเกษตรแบบใหม่สอนนักเรียน สร้างความยั่งยืนด้านอาหาร



ธ.ก.ส. สร้างโมเดลการทำเกษตรในโรงเรียน เติมเต็มทั้งหลักสูตร และการลงมือปฏิบัติจริง ในการปลูกผักสวนครัวแบบไร้สารพิษ การเลี้ยงปลาและไก่ไข่

  • การเพาะเห็ด และการหมักปุ๋ยอินทรีย์ ที่เด็กทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องพึ่งสารเคมี
  • มุ่งเป้าพัฒนาทักษะด้านการเกษตรให้นักเรียนกว่า 9,000 คน ในโรงเรียนทั่วประเทศกว่า 200 แห่ง
  • พร้อมขยายผลไปยังครอบครัวและชุมชน เพื่อเสริมสร้างรายได้ ต่อยอดสู่การสร้างอาชีพ

ผู้สื่อข่าวรยงานว่า นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมการสร้างโมเดลทางการเกษตรในโรงเรียนเพื่อสนับสนุนให้นักเรียนได้บริโภคอาหารกลางวันที่ปลอดภัยปราศจากสารเคมีตกค้าง และเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง

โดยเติมหลักสูตรความรู้ด้านการเกษตรและการลงมือปฏิบัติจริง อาทิ การปลูกผักสวนครัวไร้สารพิษ การเลี้ยงปลาและไก่ไข่ การเพาะเห็ด และการหมักปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อพัฒนาทักษะด้านการเกษตรให้กับนักเรียน ในการผลิตและเก็บเกี่ยวผลผลิตไปใช้ในการประกอบอาหารกลางวัน และจำหน่ายผลผลิตที่เหลือไปยังตลาดชุมชน เพื่อสร้างรายได้เสริมพร้อมขยายผลองค์ความรู้ที่ได้จากโครงการไปยังครอบครัวนักเรียนและชุมชนให้สามารถต่อยอดไปเป็นอาชีพได้ในอนาคต

อีกทั้งในโอกาสนี้ ธ.ก.ส.ยังได้มอบโรงเรือนปลูกผักและอุปกรณ์ในโรงครัว เพื่อใช้ในกิจกรรมของโรงเรียน พร้อมร่วมชมกิจกรรมการทำแปลงผัก การเก็บไข่ไก่จากเล้า การทำอาหารจากผลผลิตของโรงเรียนและจัดเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับนักเรียนอีกด้วย ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนตะโกปิดทอง ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ธ.ก.ส. ได้ขับเคลื่อนภารกิจด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการปลูกความรู้ด้านการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันในโรงเรียนมาต่อเนื่องกว่า 13 ปี โดยมีโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,300 โรงเรียน เพื่อสนับสนุนให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐานด้านการเกษตร โดยเฉพาะการผลิตอาหารปลอดภัย เพื่อนำมาเป็นอาหารกลางวันในโรงเรียน สร้างสุขภาพ พลานามัยที่ดีให้กับเยาวชน และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง

“กิจกรรมดังกล่าว มุ่งเน้นส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้นักเรียนเห็นคุณค่าของสิ่งที่ตนเองผลิต สามารถพึ่งพาตนเองและนำองค์ความรู้ไปต่อยอดสู่การประกอบอาชีพได้ในอนาคต ได้แก่ การปลูกผัก การเพาะเห็ด การเลี้ยงปลา การเลี้ยงไก่ไข่ และการทำน้ำหมักชีวภาพ ควบคู่การจัดทำแผนการผลิต เพื่อให้นักเรียนมีพืชผัก อาหารปลอดภัยมาใช้ในการบริโภคทั้งปี โดยใช้พื้นที่เล็ก ๆ บริเวณโรงเรียนหรือที่อยู่อาศัยให้เป็นประโยชน์ ใช้เวลาในการผลิตแบบสั้น ๆ ไม่เกิน 45 วัน ตั้งเป้าหมายขยายโครงการปลูกความรู้ตามโมเดลดังกล่าวไปยังโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ ในปีบัญชี 2567 เพิ่มอีกจำนวน 200 แห่ง จำนวนนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 9,000 คน ทั้งนี้ เพื่อสร้างอาหารปลอดภัย สร้างความรู้และสร้างความเข้มแข็งให้กับโรงเรียนและชุมชนอย่างยั่งยืน” นายฉัตรชัย กล่าว