

- หลังราคาตลาดข้าวเปลือก 5 ชนิดต่ำกว่าราคาประกัน
- ชาวนาปลูกหอมมะลิได้เงินส่วนต่างสูงสุด 4 หมื่นบาท
- ส่วนชาวนาหอมปทุมได้ต่ำสุดกว่า 2.6 หมื่นบาท
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 16 พ.ย.นี้ ธนาคารเพื่อการเก๋ตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเปลือก ปี 63/64 รอบ 1 โดยถ้าปลูกข้าวเปลือกหอมปทุมธานี จะได้รับเงินส่วนต่างสูงสุดถึง 26,674 บาทต่อครีวเรือน, ข้าวเหนียว จะได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 33,349 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 36,670 บาท, ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 34,199 บาท และข้าวหอมมะลิจะได้รับเงินส่วนต่างสูงสุดถึง 40,756 บาท

สาเหตุที่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเลือกทั้ง 5 ชนิดได้รับเงินส่วนต่างทั้งหมด เพราะขณะนี้ ราคาข้าวเปลือกทั้ง 5 ชนิด ต่ำกว่าราคาประกัน โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ประกันรายได้ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ได้ส่วนต่างตันละ 2,911 บาท, ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ประกันรายได้ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ได้ส่วนต่างตันละ 2,137 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า ประกันรายได้ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ได้ส่วนต่างตันละ 1,222 บาท, ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ประกันรายได้ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน ได้ส่วนต่างตันละ 1,066 บาท และข้าวเหนียวประกันรายได้ตันละ 12,000 บาท ได้ส่วนต่างตันละ 2,084 บาท

“ชาวนาจะได้ส่วนต่างจำนวนเท่าใด ขึ้นอยู่กับปริมาณการแจ้งปลูกไว้ตอนขึ้นทะเบียนเกษตรกร และการจ่ายก็ไม่เกินจำนวนตันที่รัฐระบุไว้ นอกจากนี้ เกษตรกรยังจะได้เงินค่าพัฒนาคุณภาพข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ครอบครัวละไม่เกิน 20 ไร่ ซึ่งจะได้รับครัวเรือนละไม่เกิน 20,000 บาท โดยแบ่งเป็น 2 งวดๆ แรก 500 บาท งวดต่อไป 500 บาท ชาวนาสามารถตรวจสอบสิทธิ์ของตนได้ ซึ่งโครงการประดันรายได้จะช่วยยกระดับรายได้ของชาวนาได้”
