ทำตามหน้าที่… “กมธ.ป.ป.ช.” เดินหน้าสอบ “ดร.เอ้-สุชัชวีร์” หลังรับร้องเรียนเหตุร่ำรวยผิดปกติ



วันนี้ (4 ก.พ.65) ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) แถลงผลการประชุม กมธ.ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณี นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ซึ่งเป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ มีเหตุอันควรสงสัยว่าทุจริตต่อหน้าที่และร่ำรวยผิดปกติว่า สืบเนื่องจากพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกมธ.ป.ป.ช. ได้รับเรื่องจากผู้ร้องเรียนมานานแล้ว ส่วนจะเป็นใครตนไม่ทราบ เพราะพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นคนรับเรื่องไว้ 

โดยจากนั้นได้มีการพูดคุยกันร่วมกันก่อนจะนำเข้าสู่วาระการประชุมของ กมธ. เมื่อวานนี้ (3 ก.พ.) ในการสอบสวนเบื้องต้นจากการตรวจสอบเอกสารของผู้ร้องเรียน ปรากฏว่า มีข้อมูลการเข้ารับตำแหน่งอธิการบดี สจล. ของนายสุชัชวีร์ เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2558 จากนั้นยื่นบัญชีทรัพย์สินเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2559 ปรากฏมีทรัพย์สินประมาณ 44 ล้านบาทวันที่ 19 ก.ย. 2563 ดำรงตำแหน่งอธิการบดีครบ 3 ปี มีทรัพย์สินประมาณ 74 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2564 มีทรัพย์สินรวมกับภรรยาประมาณ 342 ล้านบาท ซึ่งใน 1 ปี หลังมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นประมาณ 267 ล้านบาท 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบมีประเด็นที่จะต้องตรวจสอบหลายประเด็นในเรื่องของทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเป็นของภรรยาหรือไม่ซึ่งต้องตรวจสอบว่า นายสุชัชวีร์ แต่งงานเมื่อไหร่ เบื้องต้นทราบว่า น่าจะประมาณปี 2561 นั้นหมายความว่าปี 2563 จะมีทรัพย์สินของภรรยาเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเมื่อวานนี้ ทาง กมธ.ป.ช.ป.ได้เชิญรักษาการอธิการบดี สจล. และรองอธิบดีกรมสรรพากรมาให้ข้อเท็จจริง

นายธีรัจชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การประชุม กมธ.ไม่ได้มีคนใดคนหนึ่งสอบข้อเท็จจริง แต่มี ส.ส.ทุกพรรคทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลร่วมกันดำเนินการ เช่น พรรคประชาธิปัตย์ก็มีนายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกมธ.ป.ป.ช. อยู่ร่วมประชุมด้วย ตนเชื่อว่ากระบวนการตรวจสอบมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ สำหรับประเด็นหารือมีเรื่องหน้าที่ของอธิการบดี สจล.มีอะไรบ้าง ทำงานเต็มเวลาหรือไม่ รับงานอย่างอื่นได้หรือไม่ มีรายได้เพิ่มขึ้นได้หรือไม่ 

รวมถึงอธิบการบดีมีรายได้เท่าไหร่ มีค่าตอบแทนอะไรบ้าง ซึ่งได้รับคำตอบว่า ไม่สามารถไปทำงานอื่นได้ นอกจากอธิการบดีในเวลาราชการ  และไม่ได้เบี้ยประชุมในการประชุมอธิการบดี แต่หากไปประชุมที่อื่นจะได้รับเบี้ยประชุมจากข้อมูลที่ได้รับเรื่องร้องเรียนมาระบุว่า เบี้ยประชุมและโบนัสนั้นได้รับในปี 2563 จำนวน 5.5 ล้านบาท อีกทั้งเงินเดือนประมาณ 1,410,870 บาท มาจากไหนอย่างไร

ในส่วนของค่าที่ปรึกษาวิชาชีพวิศวกรรม 3.5 ล้านบาท เมื่อเป็นอธิการบดีแล้วยังได้อยู่หรือไม่ แต่รักษาการอธิการบดีที่เชิญมาตอบไม่ได้ และขอกลับไปนำเอกสารมาชี้แจงภายใน 15 วัน นอกจากนี้ระหว่างปี 2558-2564 ที่นายสุชัชวีร์ดำรงตำแหน่งมีการก่อสร้าง 5-6 โครงการในสจล. ซึ่งมีข่าวระบุว่ามีบริษัทหนึ่งสงสัยว่าจะมีหุ้นส่วนที่เป็นคนใกล้ชิดของนายสุชัชวีร์ และนายสุชัชวีร์ อาจเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทดังกล่าวด้วยนั้นมารับงานนี้หรือไม่ ซึ่ง กมธ.จะเรียกมาตรวจสอบต่อไปว่าจริงหรือไม่ 

อีกทั้งในปี 2559-2560 ยังมีโครงการของวชิระพยาบาลได้มีการว่าจ้างให้สจล.ทำทีโออาร์ควบคุมงานตรวจสอบการก่อสร้างอาคารใหม่ มีการจ้างบริษัทดังกล่าวมารับงานด้วยหรือไม่ รวมถึงในส่วนของการทำงานร่วมกับกทม.ในการออกแบบสวนสัตว์คลอง 6 ปทุมธานี สจล.ได้เป็นที่ปรึกษามีมูลค่า 160 ล้านบาท ในปี 2563-2564 โครงการออกแบบพัฒนาทางเดินทางเท้าริมแม่น้ำเจ้าพระยามูลค่า 100 ล้านบาท  โครงการจากการะทรวงศึกษาธิการมูลค่า50 ล้านบาทช่วงปี 2563 ด้วย

นายธีรัจชัย กล่าวอีกว่า สำหรับอธิบดีกรมสรรพากรเรื่องการเสียภาษีนั้น ทราบว่ามีภาษีหลายตัวที่มีการเสียภาษีมากบางอย่างก็ได้รับการลดหย่อนหรือยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีจำนวนมาก รายได้ของปี 2563 จำนวน 18 ล้านบาทเศษมีรายได้พึ่งประเมินประมาท 12 ล้านบาทเศษ ทางกรมสรรพากรแจ้งว่าช่วง 3 ปีหลังนายสุชัชวีร์ได้เสียภาษีประมาณ 1 ล้านกว่าบาทและ 9 แสนบาท ซึ่งเราจะต้องตรวจสอบว่าการเสียภาษีชอบหรือไม่ และรายได้ที่ได้รับนั้นใช่หรือไม่กมธ.ป.ป.ช.ยืนยันว่าเราดำเนินการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาและไม่มีธงตั้งว่าจะให้มีความผิด  

ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยว่าในช่วงนี้เป็นช่วงใกล้การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ทำไมจึงนำเรื่องนี้เข้ามาพิจารณานั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์รับเรื่องนี้มาและผู้ที่ร้องเรียนได้มาพูดคุยโดยตรง จากนั้นตนได้รับเรื่องนี้มาตรวจสอบต่ออย่างตรงไปตรงมา ซึ่งมีข้อสังเกตว่าพรรคก้าวไกลก็ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ด้วยเช่นกันนั้นอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนด้วยหรือไม่นั้น ในสัปดาห์หน้าที่มีการประชุมกมธ. ตนจะเสนอขอให้เปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบเรื่องนี้  เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบโปร่งใสที่สุด ส่วนข้อร้องเรียนที่ระบุว่าบิดามารดาเป็นครูระดับวิทยาลัยเทคนิคอาชีวะ มีฐานะระดับปานกลาง สิ่งที่เราตรวจสอบได้คือมีการยกที่ดิน คอนโดและตึกแถวให้กับนายสุชัชวีร์ประมาณ 60 กว่าล้านบาท ซึ่งก็ต้องตั้งข้อสังเกตต่อไป

ทั้งนี้เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้เน้นย้ำว่าให้พิจารณาเรื่องนี้เป็นพิเศษหรือไม่ นายธีรัจชัย กล่าวว่า ไม่ได้มีการเน้นย้ำอะไร แต่ให้ดำเนินการตรวจสอบไปตามปกติ

เมื่อถามว่า มีการเสนอว่าเรื่องนี้ควรให้กรรมการป.ป.ช.จะเป็นผู้ตรวจสอบจะเหมาะสมกว่า นายธีรัจชัย กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ควรไปถามพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ิ ดีกว่าเพราะเป็นคนมอบหมายมา ซึ่งต้องตรวจสอบในมาตรฐานเดียวกันกับเรื่องอื่น ๆ