

“อนุทิน” เผย นายกฯเห็นด้วยกับแนวทางฟื้นฟูกิจการของการบินไทยตามแนวทางคมนาคม ที่ให้ศาลล้มละลายกลางเข้ามาเป็นตัวกลาง เพื่อบริหารหนี้สิน เผยตอนนี้เหลือเพียงซอยเดียวแล้ว ฟื้นฟูกิจการเป็นทางที่ดีที่สุด ทุกคนต้องถอย ล่าสุดนายกฯเรียกประชุม คนร.ด่วน!เช้าวันที่ 18 พ.ค.เพื่อพลิกมติเดิม ส่วนคมนาคมชงแผนฟื้น ‘การบินไทย’ ปรับพ้นสภาพรัฐวิสาหกิจก่อนยื่นศาลขอล้มละลาย
.นายกฯไฟเขียวเข้ากระบวนการศาลล้มละลายกลาง
ที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (15พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลการบินไทยเข้าหารือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยใช้เวลาหารือประมาณครึ่งชั่วโมง โดยนายอนุทิน เปิดเผยว่า ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบถึงแนวทางที่กระทรวงคมนาคมเลือกที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาของบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ที่จะมุ่งสู่การปรับโครงสร้างโดยการเข้าแผนฟื้นฟูตามกระบวนการของศาลล้มละลายกลาง ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความเห็นไปในทางเห็นด้วยที่จะให้ ฟื้นฟูกิจการการบินไทยถือเป็นวิธีการที่สวยที่สุด “สิ่งที่หารือกันเบื้องต้นในขณะนี้ การบินไทยถือเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ หากเลือกวิธีการให้คลังไปค้ำประกันเงินกู้ก้อนใหม่หรือหาเงินทุนเพื่อจะมาลงเพิ่มเติมก็ลำบาก จึงน่าจะเหลืออยู่วิธีการเดียวคือการฟื้นฟูกิจการการบินไทย อย่างมีขั้นตอน ไปพร้อมๆกันกับการปรับโครงสร้างผู้บริหารการบินไทย ”
ส่วนกรณีที่การบินไทยทำแผนฟื้นฟูมาแล้วหลายรอบแต่ยังไม่ได้ผล นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเป็นแผนการฟื้นฟูกิจการภายใน ไม่ใช่แผนการฟื้นฟูหนี้ แต่ในครั้งนี้มองถึงการฟื้นฟูหนี้ที่มีอยู่ ทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้ ซึ่งในพระราชบัญญัติล้มละลาย ในหมวดฟื้นฟูกิจการ คนที่ยื่นฟื้นฟูกิจการไม่จำเป็นต้องเป็นลูกหนี้อย่างเดียว เจ้าหนี้ที่มีหนี้ มากกว่า 10 ล้านบาทก็สามารถยื่นขอให้ฟื้นฟูกิจการได้ เรื่องนี้ต้องแข่งกับเวลา
เมื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการแล้วก็เป็นเรื่องของเจ้าหนี้และลูกหนี้โดยมีศาลเป็นผู้กำกับ และจะต้องมีผู้ทำแผน เมื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการแล้ว อำนาจการบริหารจัดการบริษัทนั้นๆก็จะอยู่กับผู้ทำแผนที่ศาลเป็นผู้แต่งตั้งโดยเป็นความเห็นชอบทั้งจากเจ้าหนี้และลูกหนี้ ผู้ทำแผนต้องมีหน้าที่เจรจากับเจ้าหนี้ และทำแผนฟื้นฟูกิจการขึ้นมา ถ้าตกลงกันได้ก็ไปโหวตที่ศาล หลังจากนั้นผู้ทำแผนก็หมดหน้าที่ไป เป็นหน้าที่ของผู้บริหารแผนที่ต้องทำตามแผนฟื้นฟูกิจการ
“วันนี้เราต้องเร่งหาข้อสรุปในตัวนโยบาย โดยนายกรัฐมนตรี บอกว่าต้องฟื้นฟูกิจการ ถ้าไม่ฟื้นฟูเราไปต่อไม่ได้ ตอนนี้มีสถานการณ์โควิด-19 สายการบินก็ไม่ได้บิน เดินทางประเทศต่างๆก็ไม่ได้ สายการบินในประเทศรายได้ก็หายไปมาก ผมคิดว่าตอนนี้เหลือเพียงซอยเดียวแล้ว การฟื้นฟูกิจการเป็นทางที่ดีที่สุด ทุกคนต้องถอยกันบ้าง เพียงแค่ก้าวเดียว ก็จะเดินหน้าไปได้ 5 ก้าว แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นกระทรวงคมนาคมที่ผมกำกับดูแล เพียงได้แต่เสนอเท่านั้น แต่ทั้งหมดอยู่ที่ผู้ถือหุ้นโดยเฉพาะกระทรวงการคลังก็ต้องไปพูดคุยกันอีกที”
เมื่อถามว่าการที่กระทรวงการคลังไม่มาร่วมหารือด้วยมีนัยยะอะไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คงต้องไปถาม นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ดู อย่างไรก็ตามหากพูดถึงผู้ถือหุ้น ถ้าในบริษัทนั้นๆ มีส่วนของทุนเป็นลบ ใบหุ้นก็ไม่มีราคาอะไร เจตนารมณ์ของการฟื้นฟูกิจการภายใต้พ.ร.บ.ล้มละลาย หลักการคือเมื่อคนสะดุดล้มด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม แทนที่จะขายทรัพย์สินหรือขายทอดตลาด แล้วนำมาแบ่งเฉลี่ย อาจจะได้คนละนิดหน่อย แต่การให้โอกาสในการฟื้นฟูกิจการภายใต้กฎกติกามารยาทใหม่ทั้งหมด กิจการนี้ก็อาจจะรอด ธุรกิจก็เดินหน้าต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แนวทางที่นายอนุทิน นำเสนอนายกรัฐมนตรี จะแตกต่างจากแนวทางของกระทรวงการคลังที่จะเข้าไปค้ำประกันเงินกู้ก้อนใหม่ให้การบินไทย วงเงิน 54,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมติของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) ที่เห็นชอบร่วมกันทั้งนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม ไปแล้ว เมื่อวันที่ 4 พ.ค.63 ฉะนั้น เมื่อมีการพลิกมติตามแนวทางใหม่ นายกรัฐมนตรีจึงเรียกประชุม คนร.ในวันที่ 18 พ.ค.นี้ เพื่อให้มีมติใหม่ ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ซึ่งเป็นการตัดสินใจขั้นสุดท้าย
.ชง.คนร.ปรับบินไทยพ้นสภาพรัฐวิสาหกิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงการคลัง ว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 พ.ค.นี้ทางกระทรวงคลังจะหารือเรื่องแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) (THAI) ตามแนวทางที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้การบินไทยเข้าสู่กระบวนการล้มละลายเพื่อฟื้นฟูกิจการ โดยมีประเด็นสำคัญคือการบินไทยจะต้องพ้นจากสภาพความเป็นรัฐวิสาหกิจเพื่อให้สามารถยื่นขอให้ศาลมีคำสั่งให้เข้าสู่กระบวนการล้มละลายทางกฎหมายได้
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม เห็นว่าการยื่นขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการนั้น เบื้องต้นเห็นว่าจะต้องยื่นขอเข้ากระบวนการทั้งในศาลไทย และศาลของสหรัฐ เพราะการบินไทยมีสินทรัพย์ส่วนหนึ่งอยู่ในต่างประเทศ และให้บริการทำการบินระหว่างประเทศ หากไม่มีการคุ้มครองก็อาจจะถูกยึดสินทรัพย์และเครื่องบินจากเจ้าหนี้ในต่างประเทศได้
อย่างไรก็ตาม หากสามารถเจรจากับเจ้าหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้การบินไทยสามารถยื่นต่อศาลในประเทศไทยเพียงแห่งเดียว โดยครอบคลุมความคุ้มครองไม่ให้ถูกยึดทรัพย์ในต่างประเทศก็สามารถทำได้
แนวทางดังกล่าวนี้การบินไทย โดยกระทรวงคมนาคมจะเป็นผู้จัดทำรายละเอียดของแผน และจะไม่มีการให้เงินกู้หรือค้ำประกันเงินกู้โดยกระทรวงการคลัง แต่หากจะมีการอัดฉีดเงินกู้ก็จะต้องเป็นหนี้บุริมสิทธิ์
ส่วนประเด็นการทำให้การบินไทยพ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจถือว่ายากมาก โดยเฉพาะขั้นตอนการลดสัดส่วนหุ้นของกระทรวงการคลัง เพราะคงไม่มีกลุ่มทุนรายใดที่จะยอมเข้ามาถือหุ้นในขณะที่การบินไทยจะต้องเดินเข้าสู่กระบวนการล้มละลายเพื่อทำแผนฟื้นฟูกิจการ ทั้งนี้ ตามมติเดิมของ คนร.อนุมัติแนวทางฟื้นฟูการบินไทยที่กระทรวงการคลังจะทยอยอัดฉีดเงินกู้ ขณะเดียวกันก็จะลดสัดส่วนถือหุ้นจากปัจจุบันถืออยู่ 51.03% โดยจะให้กองทุนวายุภักษ์ และธนาคารออมสิน เข้ามาถือหุ้นแทนตามสัดส่วนที่ลดลง แต่หากหันมาใช้แนวทางฟื้นฟูของคมนาคมก็คงไม่สามารถให้ 2 หน่วยงานเข้ามาถือหุ้นแทนได้แล้ว
นอกจากนั้นหากที่ประชุม คนร.เห็นด้วยกับแนวทางของกระทรวงคมนาคมก็คาดว่า จะสามารถนำเสนอแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทยให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ 19 พ.ค.นี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้ได้มีการทาบทามอดีตผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ของรัฐรายหนึ่งเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย หลังจากที่นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม ได้ลาออกจากตำแหน่ง และยังไม่มีผู้เข้ามาทำหน้าที่แทน โดยขณะนี้ นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการ รักษาการในตำแหน่งดังกล่าว