

- การ์ดอาชีวะ-มวลชนตั้งแนวระหว่างรถเมล์กับผู้ชุมนุม
- ให้รถพยาบาลฝ่าผู้ชุมนุมเข้าพื้นที่ช่วยคนเจ็บ
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 การชุมนุมของกลุ่มราษฎร เวลา 18.29 มีการฉีดน้ำจากฝ่ายแนวกั้นตำรวจประมาณ 1 นาที บริเวณหน้าศาลฎีกา สนามหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถเมล์ 3 คัน และรถตู้ 1 คัน โดยมีรถฉีดย้ำแรงดันสูงอยู่ด้านหลัง ขวางผู้ชุมนุมไว้ โดยเจ้าหน้าที่ประกาศว่าเป็นเขตพระราชฐาน ห้ามเข้าใกล้ระยะกว่า 150 เมตร และหากต้องการส่งหนังสือให้ส่งตัวแทนมา และอย่าใช้ความรุนแรง ขณะที่การ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตั้งแนวกั้นผู้ชุมนุมห่างจากแนวเจ้าหน้าที่ประมาณ 500 เมตร
เวลา 18.35 ตำรวจขอความร่วมมือให้มวลชน ขยับออกจากแนวกั้นรอบสนามหลวง และมีผู้ชุมนุมบางส่วนเข้าพื้นที่สนามหลวงได้ 30 นาที พยายามฝ่าแนวกั้นจากหน้าศาลฎีกา โดยไม่มีการเจรจา
กลุ่มผู้ชุมนุมต่างใส่เสื้อกันฝน และบางส่วนได้ส่งร่มและเสื้อกันฝนไปยังแนวหน้า และร้องตะโกนว่า หยุดทำร้ายประชาชน
นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ ผู้ อำนวยการกองงานมวลชนอาสาในกิจการชุมนุมของคณะ กล่าวกับผู้ชุมนุมว่า ขอให้การ์ดอาชีวะ และการ์ดมวลชนอาสาตั้งแนวระหว่างรถเมล์ กับผู้ชุมนุม เพื่ออำนวยความสะดวกให้รถพยาบาล โดยมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกลุ่มราษฎรถูกฉีดน้ำแรงดันสูงขัดขวางไม่ให้เดินขบวนเข้าไปภายในสำนักราชวัง เพื่อนนำป้ายที่พิมพ์ลายซองจดหมาย พร้อมจ่าหน้าซองถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10 ไปส่งที่สำนักราชวัง ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมส่งเสียงก่นด่าและบอกต่อๆกันว่า “ไหนว่าประนีประนอม” และทำให้อำรมณ์ผู้ชุมนุมประทุขึ้น
รายข่าวเพิ่มเติ่มว่า การยื่นหนังสือถึงสถาบันฯ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2563 ซึ่งครั้งนั้นพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) มาเป็นผู้รับหนังสือแต่ครั้งนี้ผู้ชุมนุมถูกฉีดขัดขวางด้วยการวางรถประจำทาง รั้วลวดหนามเละรถฉีดน้ำแรงดันสูง