

- ทรัมป์ยัน “เอาอยู่” นักลงทุนคลายกังวลการระบาดไวรัสโคโรนา
- ไอบีเอ็ม-เน็ตฟลิกซ์ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ดีกว่าที่คาด
- ตลาดกลับมาเชื่อมั่นคาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังโตต่อเนื่อง
เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 29,293.25 จุด เพิ่มขึ้น 97.21 จุด หรือ +0.33% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 9,428.72 จุด เพิ่มขึ้น 57.92 จุด หรือ +0.62% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 3,335.07 จุด เพิ่มขึ้น 14.28 จุด หรือ +0.43%
นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นอีกครั้ง หลังบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯ ได้ทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาที่ 4 ในทิศทางที่ดี โดยแอบบอทท์”เผยกำไรพุ่ง 60% ในไตรมาส 4 ขณะที่ J&J เผยกำไรสูงกว่าคาดในไตรมาส 4 แม้รายได้ต่ำกว่าคาด เช่นเดียวกับยักษ์ใหญ่อย่างบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส แมชชีน (IBM) ที่รายงานตัวเลขรายได้เพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรายได้ที่พุ่งขึ้น 21% ในธุรกิจคลาวด์
ขณะที่บริษัทเน็ตฟลิกซ์เปิดเผยรายได้และจำนวนผู้ใช้บริการสูงกว่าคาดในไตรมาส 4 โดยมีบริษัทมีรายได้ 5.5 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.45 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่จำนวนผู้ใช้บริการในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 8.76 ล้านราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.63 ล้านราย
ขณะเดียวกัน นักลงทุนคลายวิตกต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาเชื่อมั่นว่าทางการสหรัฐสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว หลังมีการพบผู้ติดเชื้อรายแรกในสหรัฐ โดยเขา กล่าวว่า มีความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนจะเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นทุกอย่างเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ต่อเจ้าหน้าที่ทั่วโลก
นอกจากนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเชื่อมั่นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดนระบุว่า ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นสหรัฐและหากเฟดไม่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ผมคิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวใกล้ 4% นอกจากนี้ เศรษฐกิจยังถูกกระทบจากปัญหาของเครื่องบินโบอิ้ง และการผละงานประท้วงในบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์
ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังระบุด้วยว่า หากเฟดไม่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป ก่อนที่จะปรับลดลง 3 ครั้งในปีที่แล้วตลาดหุ้นสหรัฐจะสามารถดีดตัวขึ้นมากกว่านี้ โดยดัชนีดาวโจนส์น่าจะพุ่งขึ้นมากกว่านี้อีก 5,000-10,000 จุด แต่การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดก็ได้ทำลายความหวังดังกล่าว นี่เป็นการทำผิดพลาดครั้งใหญ่ของเฟด” ปธน.ทรัมป์กล่าว