

. การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 978,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.ดีกว่าที่คาดไว้
.นักลงทุนมองเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวต่อเนื่อง ตัวเลขการใช้จ่ายแข็งแกร่ง
.เริ่มมีแรงเทขายหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการปิดเศรษฐกิจ หลังภาพรวมโควิด-19 ดีต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 22.20 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,620.49 จุด เพิ่มขึ้น 20.11 จุด หรือ +0.06% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,643.22 จุด ลดลง 113.11 จุด หรือ -0.82% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,199.75 จุด ลดลง 8.37 จุดหรือ -0.20%
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังแสดงภาพการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยภาคแรงงานปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 978,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 680,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 385,000 รายในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 พ.ค. โดยเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค. 2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 390,000 ราย
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงต่ำกว่าระดับ 400,000 รายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มระบาดเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับลดตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ก่อนหน้า สู่ระดับ 405,000 ราย จากเดิมรายงานที่ระดับ 406,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลงสู่ระดับ 428,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกันไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 70.4 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2552 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 70.1 และเพิ่มขึ้นจากระดับ 64.7 ในเดือนเม.ย.
นักลงทุนขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นที่ได้รับผลดีน้อยลงจากการเปิดเศรษฐกิจ และลดการทำงานที่บ้านลง