

- ในระดับขายส่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- การบริหารจัดการด้านไฟฟ้า
- สู่ศูนย์กลางซื้อขายไฟฟ้าของอาเซียน
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วย ความร่วมมือในการศึกษาการพัฒนาความพร้อมเพื่อรองรับตลาดซื้อขายไฟฟ้าในระดับขายส่ง ฉบับที่ 2 เมื่อวันที่ 29ก.ย.ที่ผ่านมาเพื่อรองรับตลาดซื้อขายไฟฟ้าในระดับขายส่ง (Wholesale Electricity Market) ที่มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2562 เนื่องจากกฟผ. เล็งเห็นถึงโอกาสในการจัดตั้งตลาดซื้อขายไฟฟ้าซึ่งมีรูปแบบคล้ายตลาดซื้อขายไฟฟ้าในสหภาพยุโรป
ทั้งนี้ ในระยะแรก กฟผ. มีแผนจัดตั้งตลาดซื้อขายพลังงานไฟฟ้า ประกอบด้วย ตลาดซื้อขายไฟฟ้าล่วงหน้าหนึ่งวัน(Day-Ahead Market) และตลาดซื้อขายไฟฟ้าระหว่างวัน (Intraday Market) โดย กฟผ. จะเป็นผู้จัดทำกฎระเบียบการซื้อขายไฟฟ้า ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นผู้ให้คำปรึกษาในการพัฒนาระบบซื้อขาย เมื่อตลาดซื้อขายพลังงานไฟฟ้าทั้งสองมีเสถียรภาพและสภาพคล่องแล้ว อาจพิจารณาให้มีการซื้อขายในตลาดซื้อขายกำลังการผลิตไฟฟ้า (Capacity Market) สำหรับจัดหากำลังการผลิตล่วงหน้า และพัฒนาต่อเป็นสินค้าในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ในอนาคตด้วย

สำหรับ การพัฒนาตลาดซื้อขายไฟฟ้ายังต้องปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ โครงสร้างกิจการไฟฟ้า รวมถึงการกำหนดนโยบายร่วมกันในการพัฒนาตลาดซื้อขายไฟฟ้าระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนในรูปแบบที่เหมาะสมเพื่อเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าทั้งในระดับประเทศและอาเซียน
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการนำผลการศึกษาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และกฟผ. ศึกษาร่วมกันในระยะเวลา 1 ปี มาพัฒนาต่อยอด โดยที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะได้ถ่ายทอดความรู้ด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ การส่งมอบ การชำระราคาหลักทรัพย์ และประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจการซื้อขายหลักทรัพย์ร่วมกับผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้อง (Intermediaries) ซึ่ง2ฝ่ายจะได้นำผลการศึกษาไปต่อยอดสู่การพัฒนาสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนในอนาคต ที่ เป็นหนึ่งในแผนกลยุทธ์สำคัญของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่พร้อมเติบโตด้วยการสร้างโอกาสใหม่ (Grow with New Opportunities) และด้วยศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย จะสามารถเป็นศูนย์กลางการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าของอาเซียนในอนาคต
นอกจากนี้ คณะทำงานฯ ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับที่ 2 มีกรอบระยะเวลา 6 เดือน เพื่อศึกษาพัฒนาต่อยอดความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานของตลาดซื้อขายไฟฟ้าในเชิงลึกในแต่ละด้าน อาทิ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมไฟฟ้าในอนาคต ระเบียบการซื้อขายในตลาดซื้อขายไฟฟ้าที่สอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย บทบาทและความสำคัญของตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน (Exchange Market) และตลาดการเงิน (Financial Market) ในกิจการไฟฟ้าในอนาคต การแข่งขันในตลาดทุนเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการแข่งขันในตลาดซื้อขายไฟฟ้าเพื่อนำข้อมูลจากการศึกษามาใช้ประกอบการจัดตั้งตลาดซื้อขายไฟฟ้าในอนาคต รวมถึงการเสนอให้มีการศึกษาการเปิดเสรีกิจการไฟฟ้าในระดับขายปลีกเพิ่มเติม เพื่อหาข้อดีข้อเสียของอุตสาหกรรมไฟฟ้าทั้งในรูปแบบเดิม และรูปแบบการแข่งขันเสรีเต็มรูปแบบทั้งด้านผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง