ดาวโจนส์แกว่งตัวแคบ เพิ่มขึ้นกว่า 40 จุด รอปัจจัยใหม่ๆ หนุนตลาด



  • นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ หลังเฟดยืนยันยังเอาอยู่
  • จับตาการฟื้นตัวและตัวเลขจีดีพี ไตรมาสแรกของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
  • ตลาดรอดูการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนกลุ่มค้าปลีก

เมื่อเวลา 21.45 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ34,357.80 จุด เพิ่มขึ้น 45.34 จุด หรือ +0.13% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,718.04 จุด เพิ่มขึ้น 60.86 จุด หรือ +0.45%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,194.40 จุด เพิ่มขึ้น 6.27 จุด หรือ +0.15%

นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ หลังเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ออกมาแสดงความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และยังสนับสนุนนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของเฟด แม้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลง ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

โดยล่าสุด ริชาร์ด คลาริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ แสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐน่าจะดูดซับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นได้ และเฟดสามารถรับมือกับเรื่องนี้ ขณะที่แมรี่ ดาลี ประธานเฟด ซานฟรานซิสโก ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวอย่างน่าพอใจ

ตลาดรอปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาขับเคลื่อนทิศทางดัชนี โดยจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2) ในวันพฤหัสบดี โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ดีกว่าความคาดหมายในช่วงก่อนหน้า ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 1/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 6.4% ในไตรมาส 1 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1% และเป็นตัวเลขการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่ไตรมาส 3/2546 หลังจากที่เติบโต 4.3% ในไตรมาส 4/2563

ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอดูการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทกลุ่มค้าปลีกหลายแห่งจะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้

เสียวหมี่ (Xiaomi) บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของจีน รายงานรายได้ 7.69 หมื่นล้านหยวน (1.2 หมื่นล้านดอลลาร์) ในไตรมาสแรกซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา พุ่งขึ้น 55% จากระดับ 4.97 หมื่นล้านหยวนในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 7.47 หมื่นล้านหยวน ขณะที่กำไรสุทธิพุ่งขึ้นถึง 164% แตะที่ 6.07 พันล้านหยวน (949 ล้านดอลลาร์) มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 3.97 พันล้านหยวน

ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงรอดูการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทกลุ่มค้าปลีกหลายแห่งจะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้